คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่ได้ร่วมรู้เห็นในการปลอมลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและไม่ทราบว่าลายมือชื่อนั้นเป็นลายมือปลอมจำเลยได้กรอกข้อความลงในหนังสือมอบอำนาจนั้น ตามคำบอกเล่าของผู้ที่จำเลยเชื่อว่าเป็นผู้รับมอบอำนาจ เมื่อจำเลยกรอกข้อความลงไปโดยสุจริต จำเลยไม่มีความผิดฐานปลอมหนังสือ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 7 กันยายน ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2504 ได้มีคนร้ายเข้าไปลักโฉนดที่ดินเลขที่ 4446 ของนางปุก ธันวารชร ไป จำเลยและนางจงกลได้ครอบครองโฉนดที่ดินดังกล่าวนี้ไว้ตามวันเวลาดังกล่าวแล้ว จำเลยและนางจงกลได้ร่วมกันเป็นคนร้ายลักโฉนดหรือได้รับไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยกระทำผิดต่อกฎหมายลักทรัพย์

ตามวันเวลาดังกล่าวแล้ว จำเลยและนางจงกลได้ทำใบมอบอำนาจปลอมหรือใช้ให้ผู้อื่นทำปลอมขึ้นโดยกรอกข้อความลงในแบบพิมพ์หนังสือมอบอำนาจว่า นางปุก ธันวารชรได้มอบให้นางจงกลเป็นผู้มีอำนาจจัดการ ขาย จำนอง ขายฝาก ที่ดินดังกล่าวแทนนางปุกขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357, 265, 268 และ 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดในข้อหาฐานปลอมหนังสือมอบอำนาจตามมาตรา 264 ให้จำคุก 1 ปี ยกฟ้องในข้อหาอื่น

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามรูปคดีมีเหตุผลให้จำเลยเชื่อว่าผู้มอบอำนาจยินยอมให้ผู้รับมอบอำนาจเขียนข้อความเองได้ จำเลยได้เขียนหรือกรอกข้อความลงในหนังสือมอบอำนาจโดยสุจริต จึงไม่เป็นความผิด ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า ลายเซ็นในหนังสือมอบอำนาจไม่ใช่ลายเซ็นของนางปุก โจทก์ไม่มีพยานนำสืบให้เห็นประจักษ์ว่าจำเลยได้ร่วมหรือรู้เห็นในการปลอมลายเซ็นของนางปุกลงในหนังสือมอบอำนาจแต่อย่างใดทั้งโจทก์ไม่มีพยานนำสืบให้เห็นว่าจำเลยได้รู้มาก่อนว่าลายเซ็นของนางปุกในหนังสือมอบอำนาจนั้นเป็นลายเซ็นปลอม เพียงแต่จำเลยเขียนคำว่าขายฝากลงในใบมอบอำนาจฉบับที่นางจงกลนำมาให้จำเลยกรอกตามคำบอกเล่าของนางจงกลโดยสุจริตเท่านั้น เมื่อจำเลยเขียนโดยเชื่อนางจงกลโดยสุจริตแล้ว การกระทำของจำเลยยังไม่ผิดดังโจทก์ฟ้อง

พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share