แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยและ อ. กระทำกิจการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันจากรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุ อ.จึงเป็นตัวแทนของจำเลยและจำเลยจะต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของ อ. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับประกันความเสียหายของรถยนต์เก๋งโตโยต้า โคโรลล่า ไว้จากนายมาโนช จารุประวิทย์ จำเลยเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์แท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน 1ท-8917 กรุงเทพมหานครนายอุดม หุ้ยกระบวน ลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลย ขับรถยนต์แท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน 1ท-8917 ไปในทางการที่จ้างหรือแทนจำเลยด้วยความประมาท โดยขับตัดหน้ารถยนต์ ซึ่งนายมาโนช ขับในระยะกระชั้นชิด รถยนต์นายมาโนช จึงชนรถยนต์แท็กซี่แล้วเสียหลักพุ่งขึ้นไปชนกระถางต้นไม้บนทางเท้าและแฉลบไปชนประตูบ้านผู้อื่นเสียหาย รถยนต์เก๋งดังกล่าวเสียหายต้องซ่อมสิ้นเงิน48,885 บาท โจทก์ต้องรับผิดสัญญาประกันภัยจึงจ่ายเงินค่าซ่อมรถยนต์ขอให้จำเลยรับผิดจำนวนเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยจำเลยให้การว่า นายอุดม หุ้ยกระบวน มิใช่ลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลย เหตุเกิดเพราะความประมาทของนายมาโนช ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 38,235 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นโดยคู่ความไม่โต้แย้งว่า นายมาโนช จารุประวิทย์ นำรถยนต์เก๋งคันหมายเลขทะเบียน 5 ง-3476 กรุงเทพมหานคร มาประกันภัยไว้กับโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์แท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน 1 ท-8917กรุงเทพมหานคร วันที่ 15 กรกฎาคม 2524 นายมาโนชขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวชนกับรถยนต์แท็กซี่ของจำเลยคันดังกล่าวซึ่งมีนายอุดมหุ้ยกระบวน เป็นผู้ขับ โดยนายอุดมขับรถยนต์แท็กซี่ด้วยความประมาททำให้รถของนายมาโนชได้รับความเสียหาย โจทก์ได้จ่ายเงินค่าซ่อมรถยนต์เก๋งของนายมาโนชไปแล้ว ปัญหาในชั้นนี้มีเพียงข้อเดียวว่า ขณะเกิดเหตุนายอุดมเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยหรือไม่ โจทก์มีนายประทีป แซ่ตั้ง ซึ่งทำงานในตำแหน่งพนักงานตรวจสอบเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถที่เอาประกันไว้กับโจทก์มาเบิกความว่ารถยนต์แท็กซี่ที่นายอุดมขับมีชื่อบริษัทจำเลยติดอยู่ข้างรถสำหรับนายสมชัย พิพิธสุขสันต์ กรรมการผู้จัดการของจำเลยนั้นแม้จะเบิกความว่า รถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุไม่มีเครื่องหมายของบริษัทจำเลยติดอยู่ที่ตัวรถ แต่ก็ยอมรับว่าสีรถยนต์รับจ้างสาธารณะของจำเลยมีสีฟ้า-ส้ม เมื่อคนอื่นเห็นรถยนต์รับจ้างสาธารณะสีฟ้า-ส้ม ก็จะต้องเข้าใจว่าเป็นรถยนต์ของจำเลยทุกวันนี้รถของบริษัทจำเลยก็ยังใช้สีฟ้า-ส้ม นอกจากนี้นายวรรณดีมังกรเสถียร พยานจำเลยอีกปากหนึ่งก็เบิกความว่า ก่อนปี2525 มีป้ายชื่อบริษัทจำเลยติดอยู่ที่ข้างรถรับจ้างสาธารณะบ้างคดีนี้เหตุเกิดในปี 2524 จึงน่าเชื่อว่ารถแท็กซี่คันเกิดเหตุของจำเลยมีสีฟ้า-ส้ม และมีชื่อบริษัทจำเลยติดอยู่ข้างรถดังนั้นคนทั่วไปที่ได้พบเห็นรถแท็กซี่คันเกิดเหตุจะต้องเข้าใจว่าเป็นรถของจำเลยสำหรับหนังสือสัญญาเช่ารถยนต์หมาย ล.1ซึ่งระบุว่านายอุดมเช่ารถคันนี้จากจำเลยนั้น ก็ปรากฏว่าสัญญาเช่าดังกล่าวไม่ระบุระยะเวลาการเช่าซึ่งเป็นการผิดปกติวิสัยทั้งยังระบุค่าเช่าเพียงวันละ 100 บาท ซึ่งเป็นค่าเช่าที่ต่ำเกินไปจนไม่น่าเชื่อถือ จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่ากันจริง ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าจำเลยและนายอุดมกระทำกิจการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันจากรถยนต์แท็กซี่คันเกิดเหตุ นายอุดมจึงเป็นตัวแทนของจำเลยและจำเลยต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของนายอุดมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ฎีกาแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 1,500 บาท”