คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6920/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา264นั้นคู่ความฝ่ายใดจะร้องขอก็ได้แต่จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอเพื่อให้ทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันในคดีนั้นได้รับความคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาหรือเพื่อความสะดวกในการบังคับคดีตามคำพิพากษา โจทก์และจำเลยทั้งสองพิพากษากันเกี่ยวกับหุ้นโดยโจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์ไว้โดยไม่ชอบจำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์ไว้โดยชอบจำเลยทั้งสองมิได้ฟ้องแย้งเรียกเงินปันผลของหุ้นพิพาทมาด้วยซึ่งผลของคดีถ้าจำเลยทั้งสองเป็นฝ่ายชนะศาลก็เพียงแต่พิพากษายกฟ้องโจทก์ไปตามคำขอท้ายคำให้การของจำเลยทั้งสองเท่านั้นไม่มีผลบังคับไปถึงเงินปันผลอันเป็นผลประโยชน์ของหุ้นพิพาทตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอคุ้มครองได้คำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา264

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองว่าซื้อหุ้นของโจทก์ไว้โดยไม่ชอบ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองคืนหุ้นที่ซื้อไปแก่โจทก์ และรับเงินค้นไปจากโจทก์จำเลยทั้งสองให้การสู้คดีว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์โดยชอบ ขอให้ยกฟ้อง
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 ขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์นำเงินปันผลของหุ้นพิพาทจำนวน226,600 บาท มาชำระให้แก่จำเลยทั้งสองพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี นับแต่วันที่โจทก์กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำเงินปันผลของหุ้นพิพาทตามสิทธิที่จำเลยทั้งสองได้จำนวน 1,133 หุ้น เป็นเงินจำนวน226,600 บาท ไปเปิดบัญชีฝากธนาคารในนามของจำเลยทั้งสองแล้วให้โจทก์นำสมุดบัญชีเงินฝากดังกล่าวมาให้ศาลเก็บรักษาไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หากฝ่ายใดชนะคดีก็ให้ฝ่ายนั้นรับสมุดบัญชีเงินฝากดังกล่าวไปถอนเงินต้นและดอกเบี้ยไปได้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามฎีกาโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามคำร้องได้หรือไม่เห็นว่า การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 นั้นคู่ความฝ่ายใดจะร้องขอก็ได้ แต่จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอ เพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันในคดีนั้นได้รับความคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาหรือเพื่อความสะดวกในการบังคับคดีตามคำพิพากษา คดีนี้โจทก์และจำเลยทั้งสองพิพาทกันเกี่ยวกับหุ้นโดยโจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์ไว้โดยไม่ชอบขอให้จำเลยทั้งสองคืนหุ้นที่ซื้อไปแก่โจทก์และรับเงินคืนไปจากโจทก์จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์ไว้โดยชอบ จำเลยทั้งสองมิได้ฟ้องแย้งเรียกเงินปันผลของหุ้นพิพาทมาด้วย ซึ่งผลของคดีถ้าจำเลยทั้งสองเป็นฝ่ายชนะศาลก็เพียงแต่พิพากษายกฟ้องโจทก์ไปตามคำขอท้ายคำให้การของจำเลยทั้งสองเท่านั้นไม่มีผลบังคับไปถึงเงินปันผลอันเป็นผลประโยชน์ของหุ้นพิพาทตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอคุ้มครองได้ คำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของ จำเลยทั้งสอง

Share