คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1,2 ร่วมกันลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งต่อมาได้เลิกกิจการ จำเลยที่ 1 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการต้องร่วมรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทเป็นการเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด จึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์เช่นเดียวกับจำเลยที่ 1

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันชำระเงิน89,248 บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1ฎีกาว่าจำเลยลงชื่อในฐานะตัวแทนนิติบุคคล ไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยมหาดใหญ่และจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนดังกล่าวได้ร่วมกันลงชื่อสั่งจ่ายเงินตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ ก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยมหาดใหญ่ได้เลิกแล้ว โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ชำระบัญชี และปรากฏว่าโจทก์ยังไม่ได้รับเงินตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จะฟังได้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยมหาดใหญ่จะต้องรับผิดชดใช้เงินตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 ให้โจทก์ เพราะจำเลยทั้งสองลงชื่อสั่งจ่ายเช็คนั้นในฐานะตัวแทนก็ตามแต่จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจึงต้องร่วมรับผิดชดใช้เงินตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 ให้โจทก์ด้วย สำหรับจำเลยที่ 2 เป็นเพียงหุ้นส่วน แต่เข้าไปลงชื่อในเช็คอันเป็นการเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยมหาดใหญ่ จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้เงินตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 ฉะนั้นโจทก์จึงชอบที่จะฟ้องจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันรับผิดชดใช้เงินตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 ให้โจทก์ได้”

พิพากษายืน

Share