คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีฉ้อโกงเงินนั้น เมื่อผู้ถูกหลอกลวงเชื่ออุบายจำเลยได้จ่ายเงินให้แก่ฝ่ายจำเลย จะเป็นเงินของผู้ถูกหลอกลวงเองหรือหยิบยืมมาจากใคร จะทำเป็นหนังสืออย่างใด หรือไม่ก็ตาม ก็เรียกได้ว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายโดยตรงมีอำนาจที่จะร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานฉ้อโกงเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ของนายมณีไป จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย ตาม ก.ม. ลักษณะอาญา มาตรา ๓๐๔ จำคุก ๑ ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า นายมณีผู้ร้องทุกข์ในคดีนี้ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยเงิน ๒๐,๐๐๐ บาทนั้นเป็นของพี่สาวนายมณีไปยืมมาจากนางโอมาย และรับเงินไปในลักษณะกู้ยืม
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงคงฟังได้ว่าจำเลยได้หลอกลวงนายมณีฯ ได้เชื่ออุบายของจำเลย ได้จ่ายเงินให้แก่ฝ่ายจำเลย จะเป็นเงินของนายมณีเอง หรือหยิบยืมมาจากใคร จะทำเป็นหนังสืออย่างใด หรือไม่ก็ตาม ก็เรียกได้ว่านายมณีเป็นผู้เสียหายโดยตรง มีอำนาจที่จะร้องเรียกได้ว่านายมณีเป็นผู้เสียหายโดยตรง มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย.
พิพากษายืน./

Share