แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การออกเช็คจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4ต้องเป็นการออกเช็คเพื่อการชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายหนี้ตามเช็คจะมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่จึงเป็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งเป็นองค์ประกอบแห่งความผิดหาได้เป็นเพียงรายละเอียดที่สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาไม่การที่โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่จำเลยกู้ยืมไปจากโจทก์โดยมิได้ระบุว่าเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายจึงเป็นการบรรยายฟ้องที่ขาดองค์ประกอบแห่งความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4การกระทำของจำเลยเป็น ความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษรวม 4 กระทง กระทงแรกลงโทษปรับ 8,000 บาทกระทงที่ 2 ลงโทษปรับ 2,000 บาท กระทงที่ 3 ลงโทษจำคุก4 เดือน กระทงที่ 4 ลงโทษจำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 10 เดือนปรับ 10,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คำฟ้องของโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หรือไม่เห็นว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4 บัญญัติว่า “ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฯลฯ เมื่อได้มีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้นผู้ออกเช็คมีความผิด” ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าวการออกเช็คจะเป็นความผิดต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย หนี้ตามเช็คจะมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่จึงเป็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งเป็นองค์ประกอบแห่งความผิด หาได้เป็นเพียงรายละเอียดที่สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาตามฎีกาของโจทก์ไม่ ดังนี้ การที่โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่จำเลยกู้ยืมไปจากโจทก์โดยมิได้ระบุว่าเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายจึงเป็นการบรรยายฟ้องที่ขาดองค์ประกอบแห่งความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
พิพากษายืน