คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายพูดก้าวร้าวจำเลยว่า ได้เตะพ่อจำเลย แล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปว่า ‘กูแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน’ นายเที่ยงพูดห้ามผู้ตาย ผู้ตายด่านายเที่ยงและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใดผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยง จำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลยจำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายจิตร นกน้อย ถึงแก่ความตาย

จำเลยให้การว่า ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุก่อนโดยนิสัยอันธพาล ใช้ปืนยิงและตีทำร้ายจำเลยกับบุคคลอื่น จำเลยโมโหที่ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรงจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยยิงผู้ตาย เพราะถูกยั่วให้บันดาลโทสะ ให้จำคุก 8 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายได้พูดก้าวร้าวจำเลยว่าได้เตะพ่อจำเลยเพื่อให้จำเลยโกรธแล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปอีกว่า “กูมันแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน” นายเที่ยงได้พูดห้ามผู้ตาย ๆ ด่านายเที่ยงและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใด จำเลยกับพวกลุกหนี ผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยงจำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลย จำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายทางข้างหลังอีก 1 นัด ผู้ตายเดินต่อไปได้ 4 วาก็ล้มลงขาดใจตาย ตามพฤติการณ์ดังกล่าวแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะ โดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมสมควรลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ๆตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 โดยให้จำคุกจำเลย 8 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share