คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6889/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ให้ความหมายคำว่า รถ ไว้ว่า หมายความว่า รถยนต์… และรถอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และมีกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2525) ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกตามความใน พ.ร.บ. รถยนต์ ฯ ข้อ 1 วรรคหนึ่ง ว่า ให้รถใช้งานเกษตรกรรมเป็นรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และวรรคสองความว่า รถใช้งานเกษตรกรรมตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า รถที่ผลิตหรือประกอบขึ้นเพื่อใช้งานเกษตรกรรมโดยใช้เครื่องยนต์ซึ่งมิได้ใช้สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะมาติดตั้ง ส่วนข้อ 2 มีความว่า รถใช้งานเกษตรกรรมต้องเป็นรถที่มีสามล้อ หรือสี่ล้อ… กว้างไม่เกิน 2 เมตร ยาวไม่เกิน 6 เมตร… เมื่อรถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วง มีล้อ 4 ล้อ คือ 2 ล้อหน้าเป็นส่วนตัวรถไถนาแบบเดินตาม ส่วน 2 ล้อหลัง เป็นส่วนกระบะที่ดัดแปลงมาพ่วงต่อใช้เป็นส่วนให้คนนั่งหรือบรรทุกพืชผักผลไม้ได้ โดยแล่นไปโดยอาศัยเครื่องยนต์ของรถไถนาแบบเดินตามส่วนหน้านั้นเอง ไม่ได้อาศัยเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะมาติดตั้ง ดังนั้น จึงครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2525) รถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงจึงเป็นรถใช้งานเกษตรกรรมและเป็นรถตาม พ.ร.บ. รถยนต์ ฯ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2525) แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ , ๓๙๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๖ , ๔๓ (๔) , ๕๖ , ๕๗ , ๑๔๘ , ๑๕๒ , ๑๕๗ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕ (๒)
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างการพิจารณา นายสนิท ช่างขาว บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอิทธิพล ช่างขาว ผู้ตาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาตเฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ และ ๓๙๐
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ , ๓๙๐ , พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (๔) , ๕๖ , ๕๗ , ๑๔๘ , ๑๕๒ , ๑๕๗ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕ (๒) การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จำคุก ๔ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ จำคุก ๑ ปี ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ , ๓๐ ให้ยกฟ้องความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๖ , ๕๗ , ๑๔๘ , ๑๕๒ และยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นตามที่คู่ความไม่ฎีกาโต้แย้งคัดค้านว่า ในวันเกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยขับรถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงท้ายไปตามถนนสายหนองบัวโคก – หนองลุมพุก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๓ รถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงของจำเลยเกิดขัดข้องสายพานขาด จำเลยจึงนำรถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงเข้าจอดที่ไหล่ทางเพื่อทำการแก้ไข ระหว่างทำการแก้ไขนายอิทธิพล ช่างขาว ผู้ตาย ขับรถจักรยานยนต์มาตามถนนสายเดียวกัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ชนเข้ากับกระบะพ่วงท้ายของรถไถนาแบบเดินตามของจำเลยที่จอดอยู่ เป็นเหตุให้รถทั้งสองคันได้รับความเสียหาย นายอิทธิพลถึงแก่ความตาย นางเทียมและนางสร้อยซึ่งนั่งอยู่ที่กระบะท้ายได้รับบาดเจ็บ รถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงของจำเลยเป็นรถที่มี ๒ ล้อ พ่วงกับกระบะซึ่งใช้นั่งหรือบรรทุกของซึ่งมี ๒ ล้อ โดยมีแกนกลางเป็นตัวเชื่อมระหว่างตัวรถไถนาและกระบะพ่วงและเคลื่อนที่ไปได้โดยอาศัยเครื่องยนต์จากตัวรถไถนา มีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในข้อแรกว่า รถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงของจำเลยเป็นรถยนต์ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ ได้ให้ความหมายคำว่า รถ ไว้ว่า หมายความว่า รถยนต์… และรถอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และมีกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๕) ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ ข้อ ๑ วรรคหนึ่ง ว่า ให้รถใช้งานเกษตรกรรมเป็นรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และวรรคสองความว่า รถใช้งานเกษตรกรรมตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า รถที่ผลิตหรือประกอบขึ้นเพื่อใช้งานเกษตรกรรมโดยใช้เครื่องยนต์ซึ่งมิได้ใช้สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะมาติดตั้ง ส่วนข้อ ๒ มีความว่า รถใช้งานเกษตรกรรมต้องเป็นรถที่มีสามล้อ หรือสี่ล้อ… กว้างไม่เกิน ๒ เมตร ยาวไม่เกิน ๖ เมตร… เมื่อรถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงของจำเลยมีล้อ ๔ ล้อ คือ ๒ ล้อหน้า เป็นส่วนตัวรถไถนาแบบเดินตาม ส่วน ๒ ล้อหลัง เป็นส่วนกระบะที่ดัดแปลงมาพ่วงต่อใช้เป็นส่วนให้คนนั่งหรือบรรทุกพืชผักผลไม้ได้ โดยแล่นไปโดยอาศัยเครื่องยนต์ของรถไถนาแบบเดินตามส่วนหน้านั้นเอง ไม่ได้อาศัยเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะมาติดตั้ง ดังนั้น จึงครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๕) รถไถนาแบบเดินตามมีกระบะพ่วงคันเกิดเหตุจึงเป็นรถใช้งานเกษตรกรรมและเป็นรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๕) แล้ว ฎีกาจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (๔) , ๑๕๗ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๓.

Share