คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 288, 293 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องจำเลยฎีกา เมื่อยื่นฎีกาแล้ว จำเลยหลบหนีไป ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี แล้ว จำเลยหลบหนีไปเกิน 5 าปี ซึ่งเป็นกำหนดเวลาเกินกว่าอายุความที่จะฟ้องร้องแล้วนั้น คดีย่อมขาดอายุความ./

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๘, ๒๙๓.
จำเลยทั้ง ๒ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓ ให้จำคุกคนละ ๓ ปี ฯลฯ
จำเลยทั้งาสองฎีกา าเมื่อยื่นฎีกาแล้วนายสวัสดิ์จำเลยที่ ๑ หลบหนี ศาลฎีกาจำหน่ายคดี คงพิจารณาเฉพาะนายคำจำเลย ที่ ๒ ซึ่งศาลฎีกาพิพากษายืน.
ครั้นวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๔๙๕ ทางเรือนจำรายงานว่า จำเลยที่ ๑ ถูกจับได้แล้ว โจทก์จึงขอให้ศาลฎีกาพิพากษาคดีจำเลย ที่ ๑ ไป
ปรากฎว่า จำเลยที่ ๑ หลบหนีการพิจารณาของศาลฎีกาไปตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๘๙ ซึ่งศาลฎีกาจำหน่ายคดีสำหรับ ตัวจำเลยไปแล้ว เพิ่งจับตัวได้เมื่อ ๒๖ กรกฎาคม ๒๔๙๕ เป็นเวลาเกินกว่า ๕ ปี จำเลยถูกกล่าวหาโทษในความผิดฐานลัก ทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๘, ๒๙๓ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูง ๕ ปี มีกำหนดอายุความให้ฟ้องร้องภายใน ๕ ปี ตามมาตรา ๗๘(๓) แต่บัดนี้ จำเลยที่ ๑ หลบหนีไปเกินกว่าอายุความที่จะฟ้องร้องแล้ว คดีย่อมขาดอายุความ.
จึงพิพากษาให้ยกฟ้องเฉพาะตัวจำเลยที่ ๑.

Share