แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ครอบครองที่ดินมือเปล่าไว้แปลงหนึ่งสำหรับทำนาและบำรุงต้นไม้ไว้เผาถ่าน ได้ทำประโยชน์ในที่ดินนี้ตลอดมาจนทุกวันนี้ จำเลยได้บุกรุกเข้าตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์เพื่อทำฟืนหรือเผาถ่าน ขอให้ใช้ค่าเสียหายและห้ามเข้าเกี่ยวข้อง แล้วโจทก์แถลงรับสมดังคำให้การของจำเลยว่า เมื่อ 5-6 ปีมานี้จำเลยเข้าไปตัดฟันไม้ในที่พิพาทนี้ ฝ่ายโจทก์ไปแจ้งความ จำเลยต่อสู้ว่าที่ดินเป็นของจำเลยแล้วเรื่องก็เงียบไป คำแถลงของโจทก์ดังนี้ ไม่เป็นการตัดคำฟ้องของโจทก์ในข้อที่ว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่พิพาทมายังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ครอบครองมาในระหว่าง 5-6 ปีมานี้ ต้องสืบพยานกันในข้อนี้ต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง (เมื่อ 15 ก.พ. 06) ว่า เมื่อ 10 ปีเศษมานี้โจทก์ร่วมกันเข้าครอบครองยึดถือที่ดินสำหรับทำนาและบำรุงต้นสะแกและไม้เบญจพรรณไว้เผาถ่าน ได้ทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมาจนทุกวันนี้ครั้นเมื่อเดือนมกราคม 2506 จำเลยได้ร่วมกันละเมิดสิทธิของโจทก์บุกรุกเข้าตัดฟันไม้ในที่ดินของโจทก์เพื่อทำฟืนหรือเผาถ่าน ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ค่าไม้แก่โจทก์และห้ามเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินอีก
จำเลยให้การว่า เดิมที่ดินเป็นของนายเจ่งโจทก์ที่ 1 กับจำเลยที่ 1 เป็นภรรยานายเจ่ง นายเจ่งตายไปราว 13 ปีมานี้ โจทก์ที่ 1 กับจำเลยที่ 1 ได้ตกลงแบ่งที่แปลงพิพาทกันคนละครึ่ง ด้วยการกะเอาโดยมีคันนาเป็นแนวเขตเลา ๆ จำเลยตัดฟืนในที่ดินของจำเลยขายทุก ๆ 3 ปี เมื่อประมาณ 5-6 ปีมานี้ จำเลยก็ตัดฟืนตรงที่พิพาทนี้โจทก์ที่ 1 ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน จำเลยต่อสู้ว่าตัดฟืนในที่ดินส่วนของจำเลย เรื่องก็เงียบหายไปจนบัดนี้เกิน 1 ปีแล้วฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ฯลฯ
ครั้นถึงวันสืบพยาน ศาลชั้นต้นสอบโจทก์ โจทก์แถลงรับว่าเมื่อประมาณ 5-6 ปีมานี้ จำเลยเข้าไปตัดฟันไม้ในที่พิพาทนี้ฝ่ายโจทก์ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ จำเลยต่อสู้ว่าที่ดินเป็นของจำเลยแล้วเรื่องก็เงียบไป
ศาลชั้นต้นจึงสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า จำเลยได้โจทก์กับจำเลย จำเลยจึงมิใช่ตัวแทนของโจทก์ส่วนเรื่องอายุความนั้น ศาลฎีกาฟังว่า นับแต่เมื่อโจทก์รู้จำนวนเงินที่ขาดบัญชีและรู้ว่าจำเลยต้องรับผิดใช้แก่โจทก์จนถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกินกว่าหนึ่งปีแล้ว จึงพิพากษายืน