คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บริษัทจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะกรรมการทำหนังสือมอบอำนาจทั่วไปให้จำเลยที่ 5 ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่าง รวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 5 ออกเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มีส่วนร่วมออกเช็คด้วย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งห้าร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ให้ประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๑ และที่ ๕ ส่วนจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ คดีไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ประทับฟ้องจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจรงิที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วฟังได้ว่าจำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๕ ลงนามในเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงินตามเอกสารหมาย จ.๑ ก่อนจะเกิดความผิดในคดีนี้และพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ร่วมออกเช็คพิพาทกับจำเลยที่ ๕ ด้วยอย่างไร
ที่โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ในฐานะกรรมการแสดงเจตนาแทนจำเลยที่ ๑ ซึ่งไม่มีตัวตนลงชื่อเป็นผู้มอบอำนาจให้ทำแทนเท่ากับเป็นผู้แทนกัน การกระทำของจำเลยที่ ๕ และการลงชื่อมอบอำนาจของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ย่อมมีผลในตัวว่าเป็นตัวการร่วมด้วยนั้น เห็นว่าตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.๑ (แผ่นที่ ๔) เป็นการมอบอำนาจทั่วไปของจำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ให้จำเลยที่ ๕ ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่างรวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและการฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นเพียงการลงนามในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าว โดยที่จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ไม่มีส่วนร่วมในการออกเช็คพิพาท จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค คดีของโจทก์เฉพาะจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ จึงไม่มีมูลตามฟ้อง
พิพากษายืน

Share