คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6857/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ประเด็นแห่งคดีมีเพียงว่าสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นเกี่ยวกับตัวทรัพย์ว่าทรัพย์ใดเป็นมรดกหรือไม่คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นที่ว่าเงินค่าเสียหายที่จะได้รับ จากบริษัทประกันภัยไม่ใช่ทรัพย์มรดกจึงเป็นการ วินิจฉัยนอกเหนือจากคำขอและนอกประเด็น

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัย “พิเคราะห์แล้ว ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องมีว่าผู้ร้องมีสิทธิขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายในคดีนี้หรือไม่ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าผู้ตายไม่มีทรัพย์สินอื่นคงมีเพียงสิทธิที่จะได้รับเงินค่าเสียหายจากบริษัทสินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเงินที่ผู้ประสบภัยจะได้รับเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงไม่เป็นทรัพย์มรดกที่ผู้ร้องจะเรียกร้องเอาไปจัดการได้นั้นเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ประเด็นแห่งคดีมีเพียงว่าสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นเกี่ยวกับตัวทรัพย์ว่าทรัพย์ใดเป็นมรดกหรือไม่คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นที่ว่าเงินค่าเสียหายที่จะได้รับจากบริษัทสินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่ใช่ทรัพย์มรดกจึงเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากคำขอและนอกประเด็นตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6360/2539 และ 5926/2540 คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของผู้ร้องมานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share