แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ด้วยความประมาทชนเฉี่ยวรถที่ บ. ขับมาได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 29,66 ตามที่แก้ไข ดังนี้ ด. เจ้าของรถคันที่ถูกชนไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบกเพราะยังเรียกไม่ได้ว่าได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)แม้ศาลชั้นต้นจะได้อนุญาตให้ ด. เข้าร่วมเป็นโจทก์ และเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ด. อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมยกอุทธรณ์เสียโดยเหตุที่โจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเฉี่ยวชนรถยนต์ที่นายทองเบิ้ม ลิ้มเฮง เป็นผู้ขับขี่ เป็นเหตุให้รถยนต์ที่ถูกชนเสียหายและสินค้าในรถยนต์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก
บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด เจ้าของรถยนต์ที่ถูกชน และนายทองเบิ้ม ลิ้มเฮงขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบเอาเป็นแน่นอนไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายขับรถโดยประมาท กรณีมีเหตุสงสัยกับควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง
บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม
บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด โจทก์ร่วมเจ้าของรถยนต์ที่ถูกชนคดีนี้ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบกเพราะยังเรียกไม่ได้ว่า โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(4) ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1975/2497 และที่ 202/2510
พิพากษายืน