คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6848/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ให้ลูกจ้างทั้งห้าซึ่งมีหน้าที่เฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินให้แก่ธุรกิจของโจทก์ทำงานทุกวันโดยไม่ได้จัดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ โจทก์ต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าเสมือนว่าโจทก์สั่งให้ลูกจ้างทั้งห้าทำงานในวันหยุด เมื่อลูกจ้างทั้งห้าเป็นลูกจ้างรายวันที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 56 (1) โจทก์จึงต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าในอัตรา 2 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานตามมาตรา 62 (2) แต่โจทก์ได้จ่ายค่าทำงานในวันหยุดเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าไปแล้ว ย่อมถือได้ว่าโจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดขาดไปจำนวน 1 เท่าของค่าจ้างในวันทำงาน การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าเพิ่มอีก 1 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระบุรี ที่ 17/2547 เรื่องค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบธุรกิจเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สิน นายเสริมศักดิ์ นายปัญญา นายเกรียงไกร นางสาวสอิ้ง และนางสาวอุทุมพร เป็นลูกจ้างของโจทก์ทำหน้าที่เฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินให้แก่ธุรกิจของโจทก์ ได้รับค่าจ้างรายวัน โจทก์ให้ลูกจ้างทั้งห้าทำงานทุกวันโดยไม่มีวันหยุดประจำสัปดาห์ ลูกจ้างทั้งห้าได้ยื่นคำร้องต่อจำเลยในฐานะพนักงานตรวจแรงงาน จำเลยจึงมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระบุรี ที่ 17/2547 คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า คำสั่งที่ 17/2547 ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 28 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ สัปดาห์หนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งวัน โดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมีระยะห่างกันไม่เกินหกวัน นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้ากำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์วันใดก็ได้” มาตรา 64 บัญญัติว่า “ในกรณีที่นายจ้างมิได้จัดให้ลูกจ้างหยุดงานหรือจัดให้ลูกจ้างหยุดงานน้อยกว่าที่กำหนดไว้ตามมาตรา 28 มาตรา 29 และมาตรา 30 ให้นายจ้างจ่ายค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างตามอัตราที่กำหนดไว้ในมาตรา 62 และมาตรา 63 เสมือนว่านายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุด” และคดีนี้โจทก์ให้ลูกจ้างของโจทก์รวมทั้งลูกจ้างทั้งห้าทำงานทุกวันโดยไม่ได้จัดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ โจทก์จึงต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าเสมือนว่าโจทก์สั่งให้ลูกจ้างทั้งห้าทำงานในวันหยุด โดยลูกจ้างทั้งห้าเป็นลูกจ้างรายวันซึ่งไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 56 (1) ซึ่งต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าในอัตรา 2 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานตามมาตรา 62 (2) แต่โจทก์ได้จ่ายค่าทำงานในวันหยุดเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าไปแล้ว จึงจ่ายค่าทำงานในวันหยุดขาดไปจำนวน 1 เท่าของค่าจ้างในวันทำงาน การที่จำเลยมีคำสั่งที่ 17/2547 ให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างทั้งห้าเพิ่มอีก 1 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานจึงชอบแล้ว ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share