คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6848/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกหนี้และบริษัทส.ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้โดยยอมรับผิดร่วมกันชำระเงินแก่เจ้าหนี้ไม่ว่าลูกหนี้จะต้องรับผิดตามเช็คมูลหนี้เดิมเป็นส่วนตัวหรือไม่ก็ตามการที่ลูกหนี้ยินยอมระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ดังกล่าวรวมทั้งคดีอาญาข้อหาความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งลูกหนี้และบริษัทถูกเจ้าหนี้ฟ้องอยู่ทั้งเพื่อประสงค์ให้เจ้าหนี้ลดยอดหนี้ให้แก่ลูกหนี้และบริษัทส.โดยยอมตนเข้าผูกพันทำสัญญาประนีประนอมยอมความชำระเงินแก่เจ้าหนี้ร่วมกับบริษัทส.เช่นนี้ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา852ซึ่งหมายความว่าลูกหนี้กับบริษัทส.มีหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความแก่เจ้าหนี้ถือว่าลูกหนี้มีความผูกพันที่ต้องชำระหนี้ที่มีอยู่จริงแก่เจ้าหนี้หาใช่เป็นหนี้สมยอมโดยปราศจากมูลหนี้ซึ่งต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา94ไม่เจ้าหนี้จึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้ล้มละลายศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลย(ลูกหนี้) ทั้งสองเด็ดขาดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2531ต่อมาวันที่ 16 พฤศจิกายน 2531 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมพร้อมดอกเบี้ยจำนวน1,317,338.95 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 รายละเอียดปรากฏตามบัญชีท้ายคำขอรับชำระหนี้และเอกสารที่เจ้อางี้ส้ง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดให้บรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้ตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้ว ลูกหนี้ที่ 2 โต้แย้งว่าลูกหนี้มี 2 ไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวและเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ไปบางส่วนแล้ว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เสนอความเห็นว่าควรให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จำนวน 1,115,197.25 บาทจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 ตามมาตรา 130(8)แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ส่วนที่ขอเกินมาให้ยกเสีย ทั้งนี้โดยมีเงื่อนไขว่า หากได้รับชำระหนี้จากบริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์ จำกัด ลูกหนี้ร่วมตามคำพิพากษาตามยอมแล้วเป็นจำนวนเท่าใด ก็ให้สิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ในคดีนี้ลดลงเพียงนั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ลูกหนี้ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จำนวน 550,000 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2ตามมาตรา 130(8) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
ลูกหนี้ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ลูกหนี้ที่ 2 ฎีกาว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1096 บัญญัติให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัดต่างรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือดังนั้น การที่ลูกหนี้ที่ 2 ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คในฐานะกรรมการของบริษัทซึ่งกระทำในฐานะตัวแทนของนิติบุคคล ลูกหนี้ที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดในมูลหนี้ตามเช็ค 6 ฉบับเป็นการส่วนตัวแต่เป็นมูลหนี้ที่บริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์จำกัด ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้ การที่ลูกหนี้ที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้ เป็นการชำระหนี้ที่ไม่มีอยู่จริงให้แก่เจ้าหนี้จึงเป็นการสมยอมชำระหนี้โดยปราศจากมูลหนี้ต้องห้ามรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 94 นั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องเอกสารหมาย จ.4 เจ้าหนี้ฟ้องขอให้บังคับลูกหนี้ที่ 2นางอำนวยพร ศรีเมฆารัตน์ และบริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์จำกัด ร่วมกันรับผิดชำระเงินตามเช็ค 6 ฉบับ ซึ่งเป็นเช็คของบริษัทโดยลูกหนี้ที่ 2 และนางอำนวยพรในฐานะกรรมการของบริษัทร่วมกันลงชื่อสั่งจ่ายพร้อมกับประทับตราบริษัทแล้วนางอำนายพรกับนายชาญวิทย์ จันทร์ภิรมย์ผู้ทรงเช็คดังกล่าวนำมาแลกเงินสดจากเจ้าหนี้ไปเมื่อเช็คดังกล่าวถึงกำหนดวันสั่งจ่าย เจ้าหนี้นำไปเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน การที่ลูกหนี้ที่ 2และบริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์ จำกัด ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้โดยยอมรับผิดร่วมกันชำระเงินจำนวน 800,000 บาท แก่เจ้าหนี้ ไม่ว่าลูกหนี้ที่ 2จะต้องรับผิดตามเช็คทั้งหกฉบับเป็นส่วนตัวหรือไม่ก็ตามแต่การที่ลูกหนี้ที่ 2 ยินยอมระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ดังกล่าวรวมทั้งคดีอาญาข้อหาความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งลูกหนี้ที่ 2 และบริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์ จำกัด ถูกเจ้าหนี้ฟ้องอยู่ทั้งเพื่อประสงค์ให้เจ้าหนี้ลดยอดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ 2 และบริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์ จำกัด ตามที่ลูกหนี้ที่ 2 ให้การสอบสวน โดยยอมตนเข้าผูกพันทำสัญญาประนีประนอมยอมความชำระเงินแก่เจ้าหนี้ร่วมกับบริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์จำกัด เช่นนี้ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้น>ระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตน ตามมาตรา 852 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งหมายความว่าลูกหนี้ที่ 2กับบริษัทสยามพลังงานสังเคราะห์ จำกัด มีหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันชำระเงินตามสัญญานั้นแก่เจ้าหนี้ กรณีถือว่าลูกหนี้ที่ 2 มีความผูกพันที่ต้องชำระหนี้ที่มีอยู่จริงแก่เจ้าหนี้ หาใช่เป็นหนี้สมยอมโดยปราศจากมูลหนี้ซึ่งต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94แต่อย่างใดไม่ เจ้าหนี้จึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2
พิพากษายืน

Share