คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6834/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์ในส่วนของฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์จึงสั่งจำหน่ายคดีได้เฉพาะฟ้องแย้งของจำเลยเท่านั้น จะสั่งจำหน่ายคดีทั้งหมดรวมทั้งอุทธรณ์ ในส่วนที่เกี่ยวกับคำฟ้องของโจทก์ด้วยไม่ได้
จำเลยฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาซึ่งจำเลยอุทธรณ์ทั้งคดีคือส่วนฟ้องของโจทก์และคดีส่วนฟ้องแย้งของจำเลยโดยให้จำเลยชำระ ค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่ให้ครบถ้วนก่อนอ่านคำพิพากษา เป็นคำขอให้ ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลฎีกา ในส่วนฟ้องของโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยอย่างละ 200 บาท

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คและดอกเบี้ยจำนวน 526,552 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 500,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การและฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องและบังคับโจทก์ชำระเงินจำนวน146,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์2538 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องแย้งเป็นเงิน 11,730 บาท รวมเป็นเงิน 157,730 บาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินตามเช็คแต่ละฉบับ นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คแต่ละฉบับเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จากจำเลยให้ครบก่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้งดอ่านคำพิพากษาและส่งคำพิพากษาพร้อมสำนวนคือศาลอุทธรณ์

ศาลชั้นต้นได้หมายแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งที่ให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ให้ครบให้แก่จำเลยโดยชอบแล้ว ครั้นถึงวันนัดจำเลยไม่ไปศาลและมิได้เสียค่าขึ้นศาลตามคำสั่ง ศาลชั้นต้นจึงส่งคำพิพากษาและสำนวนคืนศาลอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ที่ขาดจำนวน 3,942.50 บาท ให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้ว แต่จำเลยมิได้นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ส่วนที่ขาดจำนวน 3,942.50 บาท มาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดถือว่าจำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบด้วยมาตรา 246 มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจำเลยออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับคำฟ้องของโจทก์และส่วนของฟ้องแย้ง จำเลยได้เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามทุนทรัพย์ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ส่วนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ในส่วนทุนทรัพย์ที่จำเลยฟ้องแย้งยังมิได้เสีย ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ในส่วนของฟ้องแย้งให้ครบ จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินการภายในเวลาที่ศาลกำหนดถือว่าจำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์ในส่วนของฟ้องแย้ง ซึ่งศาลอุทธรณ์จะสั่งจำหน่ายคดีได้เฉพาะฟ้องแย้งของจำเลยเท่านั้น จะสั่งจำหน่ายคดีทั้งหมดรวมทั้งอุทธรณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับคำฟ้องของโจทก์ด้วยไม่ได้ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำหน่ายคดีทั้งหมดจึงไม่ชอบ

อนึ่ง จำเลยฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาซึ่งจำเลยอุทธรณ์ทั้งคดี คือส่วนฟ้องของโจทก์และคดีส่วนฟ้องแย้งของจำเลยโดยให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่ให้ครบถ้วนก่อนอ่านคำพิพากษา ดังนั้น ฎีกาของจำเลยจึงเป็น คำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาในส่วนฟ้องของโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยอย่างละ 200บาท รวมเป็น 400 บาท แต่จำเลยเสียเกินมาจึงสมควรคืนส่วนที่เกินให้จำเลย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยในส่วนที่เกี่ยวกับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เสียเกินมาแก่จำเลย

Share