แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การตีความในเอกสารอำนาจของพระเจ้าแผ่นดินเหนือกฎหมาย พระบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชย์ย่อมมีผลเด็ดขาดตามกฎหมาย โจทก์เป็นหม่อมของ พ.ครั้น พ.สิ้นพระชนม์ รัชชกาลที่ 6 จึงทรงตั้งกรรมการขึ้นจัดการพระมฤดก กรรมการได้ทำรายงานถวายความเห็นว่าโจทก์ควรได้รับแต่เงินค่าเลี้ยงชีพเดือนละ 200 บาท รัชชกาลที่ 6 มีพระบรมราชโองการให้เป็นไปตามนั้นดังนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิจะได้รับพระมฤดกอื่นของ พ.นอกจากเงินเลี้ยงชีพเดือนละ 200 บาทนั้น
การที่บุคคลภายนอกเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์และจำเลยในคดีเรื่องนี้เป็นจำเลยโดยมูลสิทธิแห่งคดีเป็นอย่างเดียวกับคดีเรื่องนี้นั้น ไม่เรียกว่าโจทก์ในคดีนี้ฟ้องซ้ำค่าธรรมเนียม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนเพ็ชร์บูรณ์อินทราชัยจากจำเลยซึ่งเป็นผู้รักษาในฐานะเป็นหม่อมของเจ้าฟ้าพระองค์นั้น จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้โจทก์ชนะคดีตามฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินตามประเด็นที่จำเลยฎีกาว่าในปัญหาที่ว่าโจทก์ฟ้องซ้ำคดีหรือไม่นั้นเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่ต้องห้าม เพราะคดีที่ ส.เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์จำเลยในคดีนี้ร่วมเป็นจำเลยนั้น แม้เป็นเรื่องอยู่ในระหว่างพิจารณาโจทก์ในคดีนี้ก็เป็นจำเลยหาใช่เป็นโจทก์ในคดีนั้นไม่ การที่มูลสิทธิเป้นอย่างเดียวกันนั้นก็เพราะโจทก์เป็นลูกหนี้ของ ส.อยู่ และ ส.ใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตนเรียกเอาแก่จำเลย จะถือว่าโจทก์ฟ้องซ้ำมิได ในปัญหาที่ว่าคดีนี้โจทก์อ้างข้อตกลงกับพระคลังข้างที่เป็นฐานฟ้องหรือว่าโจทก์ฟ้องโดยอาศัยสิทธิที่ดจทก์จะได้ส่วนแบ่งมฤดกตามกฎหมาย เมื่อได้พิจารณาฟ้องของโจทก์แล้ว เห็นว่าโจทก์ฟ้องโดยอาศัยสิทธิที่จะได้ส่วนแบ่งมฤดกตามกฎหมาย หาใช่อ้างข้อตกลงกับพระคลังข้างที่เป็นฐานฟ้องไม่ ประเด็นในข้อต่อไปจึงมีว่ามฤดกรายนี้ได้มีพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชชกาลที่ ๖ สั่งไว้ประการใด เรื่องนี้เมื่อเจ้าฟ้ากรมขุนเพ็ชร์บูรณ์สิ้นพระชนม์ รัชชกาลที่ ๖ ได้ตั้งกรรมการ ๓ นายขึ้นจัดการรวบรวมทรัพย์มฤดก กรรมการทั้ง ๓ ได้จัดทำรายงานเรื่องจัดการทรัพย์ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายรัชกาลที่ ๖ ได้มีพระบรมราชโองการให้ดำเนินการไปตามรายงานนั้นทุกประการ ตามหลักฐานเอกสารดังกล่าวนี้ เห็นว่ากรรมการจัดพระมฤดกได้ทูลเกล้า ฯ ถวายความเห็นว่าสำหรับพระชายาและหม่อมซึ่งรวมโจทก์ในคดีนี้ด้วยนั้น ให้ได้รับพระราชทานเงินเดือนเลี้ยงชีพเป็นรายเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการแบ่งสิทธิในกองมฤดกให้ไปพฤตติการณ์ทั้งนี้ได้รับพระบรมราชโองการของรัชชกาลที่ ๖ ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชย์ จึงมีผลเด็ดขาดตามกฎหมายเมื่อมิได้มีพระบรมราชโองการของพระองค์ท่านเอง หรืออำนาจเด็ดขาดอื่นใดยกเลิกพฤตติการณ์นั้นจึงยังคงอยู่ และถึงแม้ในภายหลังผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะได้ทรงบัญชาให้สำนักพระคลังข้างที่ดำเนินการแบ่งส่วนพระมฤดกตามที่โจทก์ขอก็ดี ก็มีเป็นเหตุเปลี่ยนแปลงพระบรมราชโองการของรัชชกาลที่ ๖ แต่อย่างใด เพราะบัญชาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นบัญชาที่มีมายังเจ้าหน้าที่ในพระราชสำนักยังไม่มีผลเด็ดขาดทั้งในตอนหลังกลับมีบัญชาว่ามฤดกรายนี้รัชชกาลที่ ๖ ได้สั่งเด็ดขาดไปแล้วต้องจัดการไปตามพระบรมราชโองการนั้นทุกประการจึงเห็นว่าโจทก์มีเพียงสิทธิจะได้แต่เพียงเงินเลี้ยงชีพเท่านั้น จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์เสีย ค่าธรรมเนียมเป็นพับไป