คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6799/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมและโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมพิจารณา และขอลดอัตราอากรโดยระบุว่า ไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่และเป็นของใหม่ กรมศุลกากร จำเลยที่ 1ก็ต้องอนุมัติให้โจทก์ได้ลดอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 จะไม่อนุมัติโดยอ้างว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527 และประเมินเพิ่มให้โจทก์เสียแก่จำเลยทั้งสองโดยไม่ลดหย่อนอัตราอากรศุลกากรให้โจทก์ไม่ได้อำนาจในการอนุมัติขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำเข้านั้นว่า เข้ากรณีตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.9/2526 กับหลักเกณฑ์ของเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 หรือไม่ หาได้ขึ้นอยู่กับจำเลยที่ 1 หรือตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527 โดยเด็ดขาดไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินของจำเลยที่ 1 ให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินอากรขาเข้า ภาษีการค้า เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และภาษีบำรุงเทศบาล จำนวน 6,429,453.78 บาท คืนให้แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิบดีกรมศุลกากร ตลอดจนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้วขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินตามแบบแจ้งการประเมินอากรขาเข้าที่ กค.0613 (ก) ป 4438 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2532และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 เลขที่ 172/2534/1ลงวันที่ 3 เมษายน 2534 ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินอากรขาเข้าภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาล เบี้ยปรับ เงินเพิ่มจำนวน 6,429,453.78บาท คืนให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นที่คู่ความนำสืบรับกันและตามที่ศาลชั้นต้นฟังมาโดยคู่ความมิได้อุทธรณ์โต้เถียงว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ตามหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 1 ถึงแผ่นที่ 6โจทก์มอบอำนาจให้นางจันทิมา เกียรติสุนทร เป็นผู้ดำเนินคดีแทนตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 7 เมื่อวันที่ 24 กันยายน2528 วันที่ 15 ตุลาคม 2528 และวันที่ 24 พฤศจิกายน 2528 โจทก์นำเข้าเครื่องกำเนิดกำลังไอน้ำซึ่งเป็นเครื่องจักรกำเนิดพลังไฟฟ้าเพื่อใช้ในขบวนการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 55 แผ่นที่ 96และแผ่นที่ 109 โดยยื่นใบขนสินค้าขาเข้าดังกล่าวต่อจำเลยที่ 1 เพื่อชำระค่าอากรศุลกากรในวันที่ 24 กันยายน 2528 วันที่ 11 ตุลาคม 2528และวันที่ 29 พฤศจิกายน 2528 ตามลำดับ ซึ่งเครื่องกำเนิดกำลังไอน้ำที่โจทก์นำเข้าเป็นเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมที่โจทก์ขอลดอัตราอากรศุลกากรต่อจำเลยที่ 1 ได้ตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.9/2526 และที่ 58613/2526เอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 11 ถึงแผ่นที่ 15 และโจทก์ได้ขอลดอัตราอากรตามประกาศดังกล่าวตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 31 และ ล.1แผ่นที่ 54 และนำเครื่องกำเนิดกำลังไอน้ำที่นำเข้าออกไปจากอารักขาของจำเลยที่ 1 ก่อน โดยชำระอากรขาเข้า ภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลในอัตราที่โจทก์จะได้รับลดหย่อนอัตราอากรเป็นจำนวนเงิน6,279,509.63 บาท ให้จำเลยที่ 1 ไว้และนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารวางประกันในส่วนที่หากไม่ได้รับลดหย่อนอัตราอากรที่เกี่ยวกับอากรขาเข้า ภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลให้จำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยที่ 1 ไม่ลดอัตราอากรให้โจทก์ตามบันทึกเอกสารหมาย ล.1แผ่นที่ 45 ถึงแผ่นที่ 46 และมีแบบแจ้งการประเมินเพิ่มโดยไม่ลดอัตราอากรให้โจทก์เสียเป็นเงินจำนวน 6,385,422.93 บาท ตามเอกสารหมายจ.1 แผ่นที่ 21 ซึ่งโจทก์ชำระให้จำเลยที่ 1 แล้วเป็นเงินจำนวน6,429,453.78 บาท ตามใบเสร็จรับเงินเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 38ทั้งได้อุทธรณ์การประเมินต่อจำเลยที่ 1 และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 24 ถึงแผ่นที่ 26และ ล.2 แผ่นที่ 10 ถึงแผ่นที่ 12 ซึ่งจำเลยที่ 1 และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 พิจารณาไม่ลดอัตราอากรและยกอุทธรณ์ของโจทก์ตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 4 และ จ.1 แผ่นที่ 28(ล.2 แผ่นที่ 5) ตามลำดับ ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีว่า การประเมินและคำวินิจฉัยของจำเลยทั้งสองชอบหรือไม่ ที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่าอำนาจของจำเลยที่ 1 ที่จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติในการให้ลดอัตราอากรศุลกากร ตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.9/2526 และที่ 58613/2526เป็นอำนาจเด็ดขาดของฝ่ายบริหาร เมื่อจำเลยที่ 1 เห็นว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามระเบียบพิธีการขอลดอัตราอากรศุลกากรสำหรับผู้นำเข้าตามประกาศจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527 เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1จำเลยที่ 1 ก็ไม่อนุมัติในการลดอัตราอากรศุลกากรให้แก่โจทก์ได้นั้นเห็นว่าการลดอัตราอากรสำหรับเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงการคลังที่ศก.9/2526 เอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 11 ถึงแผ่นที่ 12 นั้นต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่มีระบุไว้ในข้อ 3. ของประกาศดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไว้แล้วตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 เอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 13ถึงแผ่นที่ 15 โดยกำหนดเป็นหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไว้ในข้อ 3.2และข้อ 4 ด้วยว่า เครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์นั้นไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่ ผู้นำของเข้าจะต้องยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมพิจารณาเสียก่อนว่าเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่นำเข้ามีคุณสมบัติ ประสิทธิภาพวิธีการใช้การควบคุม การใช้และด้านเทคนิควิชาการอื่น ๆ อยู่ในขั้นที่ใช้ประหยัดพลังงานหรือรักษาสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการพิจารณาลดอัตราอากร ซึ่งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าวคดีปรากฏจากทางนำสืบของโจทก์และจำเลยฟังได้รับกันว่า โจทก์ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามนั้นแล้ว โดยยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาตามเงื่อนไขในข้อ 4 ตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 31 (ล.1 แผ่นที่ 33) ทั้งระบุด้วยว่าเครื่องกำเนิดกำลังไอน้ำที่เป็นของใหม่ตามเอกสารหมาย จ.1แผ่นที่ 36 (ล.6 แผ่นที่ 38) และมีหนังสือรับรองไปด้วยว่าเครื่องจักรดังกล่าวไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ข้อ 3.2 และ 3.3 ของประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 ซึ่งไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่ด้วย ตามที่ปรากฏจากเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 37(ล.1 แผ่นที่ 39) ดังนี้แม้จะมีประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527กำหนดเป็นระเบียบพิธีการเกี่ยวกับการขอลดอัตราอากรศุลกากรตามเอกสารท้ายคำให้การของจำเลยซึ่งกำหนดไว้ในข้อ 2 ของประกาศดังกล่าวให้ผู้นำเข้ารับรองในใบขนสินค้าว่าของที่นำเข้า “ไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่” อันมีอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการลดอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526ดังกล่าวข้างต้นแล้วก็ตาม ประกาศของจำเลยที่ 1 ก็เป็นเพียงระเบียบพิธีการเกี่ยวกับการลดอัตราอากรศุลกากรเพื่อจำเลยที่ 1 จะใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติในการให้ลดอัตราอากรในรายที่คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้แจ้งผลการพิจารณาตามข้อ 4 ซึ่งจำเลยที่ 1 มีอำนาจตามข้อ 5 ของประกาศกระทรวงการคลังที่58613/2526 แล้วเท่านั้น ระเบียบพิธีการตามประกาศของจำเลยที่ 1ดังกล่าวเป็นเพียงระเบียบภายในของจำเลยที่ 1 หาใช่เป็นกฎหมายที่จะทำให้มีผลเป็นการลบล้างการปฏิบัติของโจทก์ซึ่งได้ปฏิบัติไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526ครบถ้วนแล้ว ให้โจทก์ต้องหมดสิทธิที่จะได้ลดอัตราอากรสำหรับเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.9/2526 ไปได้ไม่นายอรัญ ธรรมโน อธิบดีกรมศุลกากรจำเลยที่ 1 ก็เบิกความว่าการออกประกาศที่ 60/2527 ก็เพื่อจะให้การปฏิบัติต่อผู้เสียภาษีอากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 ที่จำเลยที่ 1จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้ลดอัตราอากรเป็นไปในทำนองเดียวกันและให้การปฏิบัติงานประจำวันเป็นไปโดยเรียบร้อย นายสุนทรวงศ์ฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ประเมินอากร 6 ฝ่ายการนำเข้า 5 ของจำเลยที่ 1 พยานจำเลยก็มิได้เบิกความยืนยันว่า ถ้าผู้นำเข้าไม่ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2526 แล้ว จำเลยที่ 1 จะอนุมัติให้ลดอัตราอากรไม่ได้ แม้จำเลยที่ 1 จะเคยไม่อนุมัติในการนำเข้ารายอื่นก็ตาม เมื่อสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมและโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมพิจารณาตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 31(ล.1 แผ่นที่ 33) และขอลดอัตราอากรตามเอกสารหมาย ล.1 แผ่นที่ 54โดยระบุว่า ไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่และเป็นของใหม่ตามเอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 37 (ล.1 แผ่นที่ 39) และ จ.1แผ่นที่ 36 (ล.1 แผ่นที่ 38) จำเลยที่ 1 ก็ต้องอนุมัติให้โจทก์ได้ลดอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526เอกสารหมาย จ.1 แผ่นที่ 13 ถึงแผ่นที่ 15 ข้อ 5 จะไม่อนุมัติโดยอ้างว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527และประเมินเพิ่มให้โจทก์เสียแก่จำเลยทั้งสองโดยไม่ลดหย่อนอัตราอากรศุลกรให้โจทก์ไม่ได้ อำนาจในการอนุมัติขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำเข้านั้นว่า เข้ากรณีตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.9/2526กับหลักเกณฑ์ของเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526หรือไม่ หาได้ขึ้นอยู่กับจำเลยที่ 1 หรือตามประกาศของจำเลยที่ 1ที่ 60/2527 โดยเด็ดขาดไม่ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าการประเมินคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไม่ชอบและพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share