คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่มีจำเลยหลายคน โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยคนหนึ่งคนใดหากมิใช่เป็นคดีที่เป็นการชำระหนี้แบ่งแยกกันมิได้ ก็ไม่ถือว่าได้กระทำต่อคู่ความร่วมคนอื่น
ฟ้องของโจทก์ขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดในมูลความละเมิดต่างกับจำเลยที่ 3 ที่ 4 ซึ่งให้รับผิดในมูลความผิดสัญญาหมั้นโดยหาได้รับผิดร่วมกันไม่เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลก็ไม่จำต้องสอบถามจำเลยที่3 ที่ 4 เป็นเรื่องของจำเลยที่ 1 ที่ถูกถอนฟ้องเท่านั้นจะคัดค้านหรือไม่คัดค้าน
การใช้สิทธิให้ศาลเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี แม้ว่าศาลได้สั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 ไปแล้ว จำเลยที่ 3 ที่ 4 ก็ยังขอให้เรียกจำเลยที่ 1 เข้ามาในคดีใหม่ได้ถ้ามีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(3) แต่ถ้ามูลความแห่งคดีของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ต่างกันโดยโจทก์ขอให้จำเลยที่1 รับผิดในมูลความละเมิด ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 ให้รับผิดในมูลความผิดสัญญาหมั้น เช่นนี้ ย่อมไม่มีเหตุที่จะเรียกจำเลยที่ 1 เข้ามาในคดีให้ชี้ความรับผิดของจำเลยที่ 1 อีก

ย่อยาว

คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายขึ้นมาสู่ศาลฎีกา เนื่องจากระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตจำเลยที่ 3 ที่ 4 ยื่นคำร้องคัดค้านว่าโจทก์มิได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 จึงไม่มีโอกาสคัดค้านก่อนที่ศาลสั่ง ซึ่งศาลต้องให้โอกาสจำเลยที่ 3 ที่ 4 คัดค้านก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21(2) แม้ศาลได้สั่งให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ไปแล้วก็ดีเนื่องจากจำเลยที่ 1 เป็นผู้ละเมิดในคดีนี้โดยตรง จำเลยที่ 3 ที่ 4 อาจใช้สิทธิไล่เบี้ยในการรับผิดต่อไปได้ ขอให้ศาลเรียกจำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นจำเลยในคดีนี้ต่อไปใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3)

ศาลชั้นต้นนัดพร้อมเพื่อสอบถามจำเลย จำเลยที่ 1 ที่ 2 มาศาลส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยที่ 1 แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องคัดค้านของจำเลยที่ 3 ที่ 4 คงยืนยันให้โจทก์ถอนฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 ได้ ให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไป

จำเลยที่ 3 ที่ 4 อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีนี้ จำเลยที่ 3 ที่ 4 ถูกศาลหมายเรียกเข้ามาในคดีถือว่าเป็นผู้ร้องสอด ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องโดยมิได้สอบถามจำเลยที่ 3 ที่ 4 ผู้ร้องสอดแต่อย่างใดไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175(1) พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสอบถามฟังความจำเลยที่ 3, 4 ก่อนแล้วสั่งใหม่ตามรูปความ

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้จำเลยที่ 3, 4 อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลลงวันที่ 27 เมษายน 2505 ที่คงยืนยันให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ได้ และยกคำร้องของจำเลยที่ 3, 4 เสีย คือ ไม่เรียกจำเลยที่ 1 เข้ามาในคดีอีกตามคำขอ ศาลชั้นต้นได้สั่งเช่นนี้โดยฟังคำแถลงของจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1 ไม่คัดค้าน ส่วนจำเลยที่ 3, 4 ได้ยื่นคำร้องคัดค้านไว้แล้วในวันนัดพร้อมเพื่อสอบถาม จำเลยที่ 3, 4 ก็มิได้มาศาลแถลงเหตุคัดค้านเพิ่มเติมทั้งที่ได้ทราบนัดแล้วศาลไม่จำต้องรอฟังคำคัดค้านของจำเลยที่ 3, 4 ต่อไปอีก อีกประการหนึ่งในคดีที่มีจำเลยหลายคน โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยคนหนึ่งคนใด หากมิใช่เป็นคดีที่เป็นการชำระหนี้แบ่งแยกกันมิได้ ก็ไม่ถือว่าได้กระทำต่อคู่ความร่วมคนอื่น ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้ให้จำเลยที่ 1 รับผิดในมูลความละเมิด ต่างกับจำเลยที่ 3, 4 ซึ่งให้รับผิดในมูลความผิดสัญญาหมั้น หาได้รับผิดร่วมกันไม่ ศาลจึงไม่จำต้องสอบถามจำเลยที่ 3, 4 เป็นเรื่องของจำเลยที่ 1 ที่ถูกถอนฟ้องเท่านั้นจะคัดค้านหรือไม่คัดค้าน

ส่วนการใช้สิทธิให้ศาลเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี แม้ว่าศาลสั่งถอนฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 พ้นจากคดีไปแล้ว จำเลยที่ 3, 4 ก็ขอให้เรียกเข้ามาในคดีใหม่ได้โดยมีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3) แต่เรื่องนี้มูลความแห่งคดีของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3, 4ต่างกันดังข้างต้น จำเลยที่ 1 หาต้องรับผิดตามสัญญาหมั้นร่วมกับจำเลยที่ 3, 4 ไม่ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการละเมิดสิทธิของคู่หมั้นซึ่งต้องเสียค่าทดแทนต่างหาก เมื่อโจทก์ไม่ติดใจว่ากล่าวเสียแล้ว ก็คงเหลือแต่เรื่องผิดสัญญาหมั้นจึงไม่มีเหตุที่จะเรียกจำเลยที่ 1 เข้ามาในคดีให้ชี้ความรับผิดของจำเลยที่ 1 อย่างใดอีก ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องถูกต้องแล้ว พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 3, 4 ตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share