คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซึ่งขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ไว้ครั้งหนึ่งแล้ว และสามารถทำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลได้ภายในระยะเวลาที่ศาลขยายให้ดังกล่าว แต่กลับไม่ทำ คงปฏิบัติภารกิจอื่นและเดินทางไปต่างจังหวัดจนถึงวันสุดท้ายที่ศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์จึงมีกำหนดกลับที่พัก แต่เดินทางกลับในเที่ยวบินช่วงเช้าไม่ได้เพราะเที่ยวบินเต็ม จึงเดินทางกลับในเที่ยวบินบ่าย ทำให้ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ทัน ถือเป็นข้อบกพร่องของโจทก์เอง ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลาอุทธรณ์อีกได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗, ๘๓
ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๔ และที่ ๕ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ยื่นตำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ครั้งที่ ๑ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ภายในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ โจทก์ยื่นอุทธรณ์พร้อมยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์อีก เมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า กรณีมีเหตุสุดวิสัยที่โจทก์จะขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้หรือไม่ คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๒ ในเบื้องต้นโจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นได้ภายในกำหนด ๑ เดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังแต่โจทก์อ้างว่าไม่ได้รับสำเนาคำเบิกความ สำเนาเอกสาร และสำเนาคำพิพากษา จึงยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๓ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ถึงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ คดีของโจทก์ไม่มีข้อยุ่งยาก ระยะเวลาดังกล่าวโจทก์ย่อมสามารถทำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลได้ แต่โจทก์กลับไม่กระทำก่อนวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ โจทก์อ้างว่าติดภารกิจที่ต่างจังหวัดซึ่งจะเดินทางโดยเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จำกัด ในเที่ยวบินช่วงเช้าของวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ แต่เที่ยวบินเต็ม จึงเดินทางกลับเที่ยวบินเวลา ๑๕.๑๕ นาฬิกา ทำให้ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ทัน แม้โจทก์จะมีภารกิจ ดังกล่าวแต่ในฐานะที่โจทก์เป็นคู่ความผู้มีสิทธิอุทธรณ์ โจทก์มีหน้าที่ต้องยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลอนุญาตให้ขยาย ไม่ใช่ปฏิบัติภารกิจอื่นจนใกล้ชิดกับวันที่โจทก์จะต้องไปยื่นอุทธรณ์ และแม้ทนายความโจทก์จะอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่โจทก์ก็สามารถให้ทนายความยื่นอุทธรณ์แทนโจทก์ได้ ดังนั้น เหตุที่โจทก์อ้างเป็นข้อบกพร่องของโจทก์เอง ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่ศาลอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อีกได้ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน .

Share