คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6765/2546

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 67 ที่บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอต่อศาลให้สั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายใน 5 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามมาตรา 40 นั้น เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจฟ้อง มิใช่บทบัญญัติเกี่ยวกับอายุความในการใช้สิทธิเรียกร้องและเป็นบทบัญญัติที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนั้น แม้จำเลยจะไม่ได้ยกปัญหาดังกล่าวขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นกล่าวในชั้นอุทธรณ์ได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 38ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสอง
กำหนดระยะเวลา 5 ปี ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 67 ให้นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นได้ตามมาตรา 40 มิใช่นับแต่วันที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอันจะมีผลให้ถือเอาวันที่ยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นวันที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้น นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และเครื่องหมายการค้าคำว่า UMILAUFEN เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2537 และวันที่ 19 เมษายน 2539 ตามลำดับ โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 เมษายน2542 จึงเป็นการฟ้องภายในกำหนดเวลา 5 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ดีกว่าจำเลย และขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ที่จำเลยได้รับโอนจากบริษัท ส. และเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ที่จำเลยได้จดทะเบียนไว้ โจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามสัญญาผู้ถือหุ้น และมิได้ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยใช้ตามสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้า ทั้งมิได้ขอให้บังคับตามสิทธิในสัญญาให้ความช่วยเหลือและบริการทั่วไปทางเทคนิค คำฟ้องของโจทก์จึงมิได้เกิดจากกรณีพิพาทกันตามข้อสัญญาข้อใดข้อหนึ่งหรืออาศัยสิทธิตามสัญญาข้อใดข้อหนึ่งตามสัญญาทั้งสามฉบับดังกล่าวอันจะต้องเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อน โจทก์จึงจะมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และ UMI-LAUFEN สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์โดยอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และใช้กับสินค้าสุขภัณฑ์มาก่อนจำเลยจึงมีสิทธิดีกว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าทั้งสองที่ได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าสุขภัณฑ์ ดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ทั้งนี้ตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนปัญหาว่าจำเลยมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามสัญญาที่โจทก์ให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าหรือไม่ เป็นอีกปัญหาหนึ่งและเป็นคนละเรื่องกับการฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสอง ทั้งโจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้า และห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามสัญญา โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยได้
โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN โดยใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์มาก่อนที่จำเลยจะใช้เครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ของจำเลย แม้โจทก์จะยังมิได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย โจทก์ก็เป็นผู้มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า “LAUFEN” สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าจำเลย ส่วนเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ที่จำเลยได้รับการจดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์นั้นเป็นเครื่องหมายการค้าที่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFENของโจทก์จนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของของสินค้าหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าได้ เมื่อโจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์มาก่อนจำเลยแม้ยังมิได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้านั้นในประเทศไทยโจทก์ย่อมมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าจำเลย
โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และคำว่า UMI-LAUFEN ซึ่งใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าจำเลย และเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ก็มีคำว่า LAUFEN อันเป็นลักษณะเด่นของเครื่องหมายเหมือนกับเครื่องหมายการค้าคำว่าLAUFEN ของโจทก์อันอาจทำให้สาธารณชนสับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของของสินค้าหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าได้ ดังนั้น แม้คำว่า UMI-LAUFEN จะเป็นส่วนหนึ่งของชื่อบริษัทจำเลยซึ่งประกอบกิจการผลิตและขายสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ แต่เมื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ซึ่งใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าจำเลย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่าUMI-LAUFEN ของจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดตามกฎหมายประเทศสมาพันธรัฐสวิส ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าคำว่า LAUFEN โจทก์เริ่มใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2513 จนมีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วโลก จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด โจทก์ทำสัญญากับบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) บริษัทคอนสตรัคชั่น แอสเซสซอรีส์ จำกัด บริษัทมาโน จำกัด นายสุเมธอินทมระ และบริษัทธนิยะ จำกัด ร่วมกันก่อตั้งบริษัทจำเลย ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน2539 โจทก์ทำสัญญาอนุญาตให้จำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ที่จำเลยผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28ตุลาคม 2536 บริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 254418 ทะเบียนเลขที่ ค17168สำหรับสินค้าในจำพวกที่ 11 ครอบคลุมสินค้าโถส้วม อ่างล้างหน้า และโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวให้แก่จำเลยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2538 ต่อมาเมื่อวันที่12 มิถุนายน 2540 จำเลยทำสัญญาโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวให้แก่โจทก์แต่จำเลยผิดสัญญาไม่ยอมไปโอนทางทะเบียน ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีหนังสือขอเพิกถอนการโอนดังกล่าว นอกจากนั้นจำเลยยังได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่าUMI-LAUFEN ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 291970 ทะเบียนเลขที่ ค45096 สำหรับสินค้าในจำพวกที่ 11 โดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์ โจทก์เป็นผู้คิดประดิษฐ์และเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN อันเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไปโดยใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่าLAUFEN ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ดีกว่าจำเลยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ก่อให้เกิดความสับสนหลงผิดในหมู่สาธารณชนและทำให้โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN กับสินค้าจำพวกที่ 11 ไม่ได้ ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ดีกว่าจำเลย ให้จำเลยโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 254418 ทะเบียนเลขที่ ค17168 ให้แก่โจทก์ หรือให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวและให้จำเลยตัดคำว่า LAUFEN ออกจากเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 291970 ทะเบียนเลขที่ ค45096 หรือให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ทั้งห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN อีกต่อไป

จำเลยให้การว่า ในการร่วมลงทุนโจทก์และจำเลยทำสัญญาให้ความช่วยเหลือและบริการทั่วไปทางเทคนิค (General Technical Assistance and Service Agreement) เรียกโดยย่อว่าสัญญา GAS และสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าTrademark Use Agreement) เรียกโดยย่อว่าสัญญา TMA โดยโจทก์อนุญาตให้จำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN กับสินค้าจำพวกเซรามิคในประเทศไทยคือ โถส้วม อ่างล้าง ห้องน้ำ ห้องส้วม เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ติดผนังสำหรับแขวนหรือเก็บสิ่งของ อ่างอาบน้ำ ถาดรองอาบน้ำ ฉากกั้นห้องอาบน้ำ และถ้วยเก็บแปรงสีฟัน สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาให้ความช่วยเหลือและบริการทั่วไปทางเทคนิค ซึ่งกำหนดให้นำกฎหมายแห่งประเทศสมาพันธรัฐสวิสมาบังคับแก่สัญญา และให้ระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นโดยการเสนอข้อพิพาทต่อคณะกรรมการบริษัทจำเลยก่อนหากไม่ได้ข้อยุติ จึงให้เสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการของหอการค้าระหว่างประเทศ (The International Chamber of Commerce (ICC) ) การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องโดยไม่เสนอข้อพิพาทต่อคณะกรรมการบริษัทจำเลยและอนุญาโตตุลาการจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์ไม่ชอบ โจทก์มิได้เป็นของเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN คำว่า LAUFEN เป็นเครื่องหมายการค้าที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และได้จดทะเบียนแล้ว ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 254418 ทะเบียนเลขที่ ค17168 สำหรับสินค้าในจำพวกที่ 11 และจำเลยได้รับโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวมาโดยสุจริต ต่อมาจำเลยทำสัญญาโอนเครื่องหมายการค้าตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 254418 ทะเบียนเลขที่ ค17168 ให้แก่โจทก์แต่จำเลยได้แจ้งเพิกถอนการขอจดทะเบียนโอนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวแก่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้า เนื่องจากเกิดความขัดแย้งระหว่างโจทก์และจำเลย โจทก์จึงมีสิทธิในฐานะเป็นเพียงเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่มิได้จดทะเบียน อย่างไรก็ตาม โจทก์ทำสัญญาอนุญาตให้จำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN กับสินค้าประเภทต่าง ๆ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2545 สัญญาดังกล่าวยังมีผลผูกพันโจทก์และจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2545 การที่จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN เป็นการใช้โดยการรู้เห็นของโจทก์โดยตลอดเนื่องจากโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN แต่ผู้เดียวในประเทศไทย บริษัทจำเลยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยว่า บริษัทยูเอ็มไอ-เลาเฟน เครื่องสุขภัณฑ์ จำกัด จึงมีสิทธิใช้คำว่า UMI-LAUFEN (ยูเอ็มไอ-เลาเฟน) เป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยได้โดยชอบด้วยกฎหมายขอให้ยกฟ้อง

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN สำหรับสินค้าจำพวกที่ 11 หรือจำพวกอื่นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของโจทก์ดีกว่าจำเลย ให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามคำขอเลขที่ 254418 ทะเบียนเลขที่ ค17168 และเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ตามคำขอเลขที่ 291970 ทะเบียนเลขที่ ค45096 คำขออื่นให้ยก ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดเป็นค่าทนายความ 3,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า”พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นที่ยุติในเบื้องต้นโดยโจทก์และจำเลยไม่โต้แย้งกันว่าโจทก์ บริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)บริษัทคอนสตรัคชัน แอสเซสซอรีส์ จำกัด บริษัทมาโน จำกัด บริษัทธนิยะ จำกัด และนายสุเมธ อินทมระ ทำสัญญาร่วมลงทุนกันจัดตั้งบริษัทจำเลยขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม2537 ตามสัญญาผู้ถือหุ้นพร้อมคำแปลเอกสารหมาย จ.5 บริษัทสหโมเสคอุตสาหกรรมจำกัด (มหาชน) ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2537 ตามหนังสือนายทะเบียนเอกสารหมาย จ.8 ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2538 บริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) โอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ให้แก่จำเลยตามคำขอโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.9 และหนังสือสัญญาโอนเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.10 และเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2539 โจทก์ทำสัญญาอนุญาตให้จำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ที่จำเลยผลิตในประเทศไทยไม่ว่าเพื่อการจำหน่ายในประเทศไทยหรือการส่งออก ตามสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.6 ต่อมาเมื่อวันที่ 12มิถุนายน 2540 จำเลยทำสัญญาโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ที่ได้รับโอนจากบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ให้แก่โจทก์ ตามหนังสือสัญญาโอนเอกสารหมาย จ.13 แล้วจำเลยกลับทำหนังสือถึงนายทะเบียนขอเพิกถอนการโอนตามหนังสือของจำเลยลงวันที่ 7 กันยายน 2541 เอกสารหมาย จ.15 นอกจากนั้นจำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN สำหรับสินค้าในจำพวกที่ 11 ตามคำขอเลขที่ 291970 ทะเบียนเลขที่ ค45096 เอกสารหมาย จ.18

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้อแรกมีว่าโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และคำว่า UMI-LAUFEN ภายในกำหนดระยะเวลา 5 ปี หรือไม่ เห็นว่า ที่พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534มาตรา 67 บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอต่อศาลให้สั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายใน 5 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามมาตรา 40 นั้น เป็นบทบัญญัติที่กำหนดระยะเวลาให้ผู้มีส่วนได้เสียฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอันเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจฟ้องหาใช่บทบัญญัติเกี่ยวกับอายุความในการใช้สิทธิเรียกร้องไม่ และเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนั้น แม้จำเลยจะไม่ได้ยกปัญหาดังกล่าวขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จำเลยก็มีสิทธิยกปัญหาดังกล่าวขึ้นกล่าวในชั้นอุทธรณ์ได้ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 38ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสอง ซึ่งกำหนดระยะเวลา 5 ปีนี้มาตรา 67 ดังกล่าวให้นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นได้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 40มิใช่นับแต่วันที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอันจะมีผลให้ถือเอาวันที่ยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นวันที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้น ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏตามหนังสือของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.8 และ จ.17 ว่า นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และเครื่องหมายการค้าคำว่าUMI-LAUFEN เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2537 และวันที่ 19 เมษายน 2539 ตามลำดับ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2542 จึงเป็นการฟ้องภายในกำหนดเวลา 5 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองตามที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยชอบแล้ว ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาเกี่ยวกับปัญหานี้มานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยในผลอุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้อที่ 2 มีว่า การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลโดยมิได้เสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการให้เป็นผู้ชี้ขาดก่อนเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนสัญญาผู้ถือหุ้น ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2537 ข้อ 22 สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2539 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาให้ความช่วยเหลือและบริการทั่วไปทางเทคนิค ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2539 ข้อ 25 และข้อ 26 ตามเอกสารหมาย จ.5 จ.6 และ ล.2 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ดีกว่าจำเลยและขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ที่จำเลยได้รับโอนจากบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และเครื่องหมายการค้า คำว่าUMI-LAUFEN ที่จำเลยได้จดทะเบียนไว้ โจทก์มิได้ฟ้องจำเลยว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามสัญญาผู้ถือหุ้นเอกสารหมาย จ.5 และมิได้ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยใช้ตามสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.6 ทั้งโจทก์มิได้ฟ้องขอให้บังคับตามสิทธิในสัญญาให้ความช่วยเหลือและบริการทั่วไปทางเทคนิคเอกสารหมาย ล.2 แต่อย่างใด ข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์จึงมิได้เกิดจากกรณีพิพาทกันตามข้อสัญญาข้อใดข้อหนึ่งหรืออาศัยสิทธิตามสัญญาข้อใดข้อหนึ่งตามสัญญาทั้งสามฉบับดังกล่าวอันจะต้องเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อน โจทก์จึงจะมีสิทธิฟ้องคดีนี้ต่อศาลได้ ดังนี้ การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้โดยมิได้เสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการให้เป็นผู้ชี้ขาดก่อนจึงหาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องดังที่จำเลยอุทธรณ์ไม่ อุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้อที่ 3 มีว่าเมื่อโจทก์ยินยอมให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN กับสินค้าสุขภัณฑ์ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม2545 ตามสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.6 แล้ว โจทก์จะมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ค17168 ที่จำเลยได้รับโอนมาจากบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ที่จำเลยได้รับการจดทะเบียนเป็นเจ้าของตามทะเบียนเลขที่ ค45096 หรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และ UMI-LAUFEN สำหรับสินค้าจำพวกที่ 11 ชนิดสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ โดยอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าสุขภัณฑ์มาก่อนจำเลยจึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และคำว่า UMI-LAUFEN ดีกว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าทั้งสองที่ได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าสุขภัณฑ์ ดังนี้โจทก์ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองได้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ทั้งนี้ตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนปัญหาว่าจำเลยมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.6 หรือไม่ เป็นอีกปัญหาหนึ่ง และเป็นคนละเรื่องกับการฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าว ทั้งคดีนี้โจทก์ก็มิได้ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.6 และห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFENตามสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และคำว่า UMI-LAUFEN ของจำเลยได้ อุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้อที่ 4 มีว่าจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 และคำว่า UMI-LAUFENตามทะเบียนเลขที่ ค45096 ซึ่งใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าโจทก์หรือไม่ ปรากฏจากพยานหลักฐานของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.3 ซึ่งเป็นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงของนายอีโว กีสเลอร์ ที่ปรึกษาทั่วไปของโจทก์และบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงของนายสตีเฟน ชาร์ลส์ คอร์สโซ กรรมการผู้จัดการบริษัทเลาเฟนเอเซีย จำกัด ฮ่องกงว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดภายใต้กฎหมายประเทศสมาพันธรัฐสวิสเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2513 โดยประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าสุขภัณฑ์ทุกประเภทภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยจนมีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป โจทก์เป็นผู้คิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามหนังสือคู่มือการออกแบบเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.19 และได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวสำหรับสินค้าสุขภัณฑ์ทุกประเภทไว้ในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศสมาพันธรัฐสวัส สหราชอาณาจักร แคนาดา สาธารณรัฐอาร์เจนตินา ญี่ปุ่นสาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศในเครือสนธิสัญญากรุงปารีสตามบัญชีรายชื่อประเทศที่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN เอกสารหมาย จ.20 และโจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ในประเทศไทยสำหรับสินค้าจำพวกที่ 19 รายการสินค้า วัสดุก่อสร้างซึ่งทำจากเซรามิค ได้แก่ แผ่นกระเบื้องเซรามิคใช้สำหรับปูพื้นห้องน้ำห้องครัว กระเบื้องปูผนังทำจากเซรามิค กระเบื้องปูพื้นทำจากเซรามิคกระเบื้องมุงหลังคาอิฐ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2538 ตามทะเบียนเครื่องหมายการค้าเลขที่ ค46073 เอกสารหมาย จ.22 โจทก์ทำสัญญาผู้ถือหุ้นร่วมกับบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทคอนสตรัคชัน แอสเซสซอรีส์ จำกัด บริษัทมาโน จำกัด นายสุเมธ อินทมระ และบริษัทธนิยะ จำกัด เพื่อก่อตั้งบริษัทจำเลย ตามสัญญาผู้ถือหุ้นลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2537 เอกสารหมาย จ.5 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2539 โจทก์ทำสัญญาอนุญาตให้จำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ที่จำเลยผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย ตามสัญญาให้ใช้เครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.6 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2538 จำเลยได้รับโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ซึ่งบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 11 รายการสินค้า โถส้วม อ่างล้างหน้า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2536 ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 เอกสารหมาย จ.7 ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2540 จำเลยทำสัญญาโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ที่ได้รับโอนมาดังกล่าวให้แก่โจทก์ แต่จำเลยผิดสัญญาไม่ยอมไปโอนทางทะเบียน ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีหนังสือขอเพิกถอนการโอนดังกล่าวตามเอกสารหมาย จ.15 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2538 จำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 11 รายการสินค้า อ่างอาบน้ำ ขาตั้งอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า ขาตั้งอ่างล้างหน้า โถส้วมชักโครก โถส้วมนั่งยอง โถปัสสาวะชาย โถปัสสาวะหญิง ถังน้ำชักโครก ที่รองนั่งและฝาปิดโถส้วม ถาดรองอาบน้ำ ท่อน้ำสำหรับเครื่องสุขภัณฑ์ ตามทะเบียนเลขที่ค45096 เอกสารหมาย จ.18 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ ส่วนจำเลยมีนายณัฐชนาเพ็ญชาติ กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยมาเบิกความประกอบบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงว่า ได้มีการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ในประเทศไทยครั้งแรกด้วยความตกลงระหว่างหุ้นส่วนก่อนมีการทำสัญญาผู้ถือหุ้นฉบับลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2537 ประมาณ 1 ปี โดยให้บริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ยื่นขอจดทะเบียนก่อนจัดตั้งบริษัทจำเลยเนื่องจากบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในขณะนั้น และบริษัทนั้นได้จดทะเบียนคำดังกล่าวเป็นเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าจำพวกที่ 11 ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 จำเลยได้รับโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 มาโดยสุจริตจากบริษัทสหโมเสค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ต่อมาจำเลยทำสัญญาโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นให้แก่โจทก์ แต่จำเลยได้แจ้งเพิกถอนการขอจดทะเบียนโอนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างโจทก์และจำเลยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2539 โจทก์ทำสัญญาอนุญาตให้จำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN สำหรับสินค้าประเภทต่าง ๆ ได้จนถึงวันที่ 13 ธันวาคม 2545 จำเลยจึงมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2545 การที่โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2538 เป็นการจดทะเบียนสำหรับสินค้าคนละประเภทกับสินค้าของจำเลย จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN โดยการรู้เห็นของโจทก์ตลอดมา จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN แต่ผู้เดียว บริษัทจำเลยใช้ชื่อว่า บริษัทยูเอ็มไอ-เลาเฟน เครื่องสุขภัณฑ์ จำกัด จำเลยจึงมีสิทธิใช้คำว่า UMI-LAUFEN เป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยได้โดยชอบด้วยกฎหมาย จากพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยดังกล่าว จำเลยมิได้โต้แย้งว่าโจทก์มิใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และใช้เครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์มาก่อนจำเลย เพียงแต่โต้แย้งว่าจำเลยยังมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ซึ่งคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFENโดยอ้างสิทธิตามสัญญาที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่าLAUFEN และอ้างว่าจำเลยเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ซึ่งได้รับการจดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ในจำพวกที่ 11 โดยโจทก์ยังมิได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN สำหรับสินค้าจำพวกที่ 11 ในประเทศไทยเท่านั้น สำหรับเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 จำเลยก็ยอมรับว่าจำเลยทำสัญญาโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวให้โจทก์แล้ว แต่จำเลยแจ้งเพิกถอนการขอจดทะเบียนโอนเครื่องหมายการค้านั้นต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า โจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่าLAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 โดยอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาโอนเครื่องหมายการค้าและโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวดีกว่าจำเลย แสดงว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ต่อไป เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN โดยใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์มาก่อนที่จำเลยจะใช้เครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ของจำเลย แม้โจทก์จะยังมิได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ในประเทศไทย โจทก์ก็เป็นผู้มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า “LAUFEN” สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ในจำพวกที่ 11 ดีกว่าจำเลย ส่วนเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค45096 ที่จำเลยได้รับการจดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ในจำพวกที่ 11 นั้น เห็นได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าที่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN โดยมีคำว่า LAUFEN อันเป็นสาระสำคัญและลักษณะเด่นของเครื่องหมายเหมือนกันเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFENของจำเลยจึงคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ของโจทก์จนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของของสินค้าหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าได้ เมื่อโจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์มาก่อนจำเลยแม้ยังมิได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้านั้นในประเทศไทย โจทก์ย่อมมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนคำว่า UMI-LAUFEN ซึ่งคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่าLAUFEN ของโจทก์สำหรับใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าจำเลย จำเลยจึงไม่มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 และคำว่า UMI-LAUFENตามทะเบียนเลขที่ ค45096 ซึ่งใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าโจทก์ อุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้อที่ 5 มีว่าเหตุที่จำเลยไม่ได้โอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 ให้โจทก์ตามหนังสือสัญญาโอนเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.13 เป็นเพราะความผิดของโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ปัญหานี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 ตรงตามคำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยโอนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวแก่โจทก์หรือสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งจึงมีผลเป็นการยกฟ้องสำหรับคำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวตามทะเบียนเลขที่ ค17168 ไปในตัว เมื่อโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ปัญหานี้จึงยุติไปตามคำพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางแล้ว ไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ต่อไป เพราะแม้จะวินิจฉัยให้ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศก็ไม่อาจพิพากษาให้จำเลยโอนเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ตามทะเบียนเลขที่ ค17168 แก่โจทก์ได้อีก

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้อสุดท้ายมีว่า เครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN เป็นส่วนหนึ่งของชื่อบริษัทจำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าว คำว่า UMI-LAUFEN ไม่มีส่วนเหมือนหรือคล้ายกับชื่อบริษัทโจทก์ ไม่ก่อให้เกิดความสับสนหลงผิดในแหล่งกำเนิดของสินค้า โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเพื่อขอให้เปลี่ยนแปลง ตัดทอน เพิกถอนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวของจำเลยหรือไม่ เห็นว่าเมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN และคำว่าUMI-LAUFEN ซึ่งใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าจำเลยและเครื่องหมายการค้าคำว่าUMI-LAUFEN ก็มีคำว่า LAUFEN อันเป็นลักษณะเด่นของเครื่องหมายเหมือนกับเครื่องหมายการค้าคำว่า LAUFEN ของโจทก์อันอาจทำให้สาธารณชนสับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของของสินค้าหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าได้ ดังนั้น แม้คำว่าUMI-LAUFEN จะเป็นส่วนหนึ่งของชื่อบริษัทจำเลยซึ่งประกอบกิจการผลิตและขายสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ก็ตามแต่เมื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFENซึ่งใช้กับสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ดีกว่าจำเลย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า UMI-LAUFEN ของจำเลยได้ อุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”

พิพากษายืน

Share