คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลมีคำสั่งในคดีหมายเลขแดงที่ 5492/2516 ให้อายัดเงินของจำเลยไว้ก่อนโจทก์ในคดีนี้และธนาคาร อ.ผู้รับคำสั่งอายัดก็มิได้ปฏิเสธคำสั่งอายัดนั้นแต่ประการใด คำสั่งอายัดจึงมีผลตามกฎหมาย แม้คำสั่งอายัดในคดีหมายเลขแดงที่ 5492/2516 จะเป็นคำสั่งอายัดชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาในคดีนั้นให้จำเลยใช้หนี้โจทก์ในคดีนั้นแล้ว โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ 5492/2516 นั้น ก็ได้ขอให้ศาลออกหมายบังคับและขอให้ศาลเรียกเงินที่ธนาคาร อ.ส่งมาตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีนี้เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ในคดีนั้น ถือได้ว่า โจทก์ได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2) แล้ว คำสั่งอายัดชั่วคราวยังมีผลอยู่ ธนาคาร อ.จะนำเงินที่ศาลมีคำสั่งอายัดชั่วคราวไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ 5492/2516 นั้น ส่งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีอื่นที่ขออายัดภายหลังไม่ได้ แต่เมื่อส่งมาแล้วก็ชอบที่จะกันเงินจำนวนนั้นไว้ชำระหนี้ให้โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ 5492/2516

ย่อยาว

คดีนี้เดิมศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสองชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์ จำเลยไม่ชำระตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้อายัดเงินทุนเลี้ยงชีพและเงินสวัสดิการสงเคราะห์ของจำเลยทั้งสองไปยังธนาคารออมสิน เพื่อชำระหนี้โจทก์เป็นเงิน ๙๕,๙๘๕.๙๘ บาท ต่อมาธนาคารออมสินได้ส่งเงินจำนวนดังกล่าวให้เจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีได้หักเงินค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายชั้นบังคับคดีแล้ว จ่ายเงินให้โจทก์ ๗๙,๑๕๓.๖๗ บาท และได้กันเงินจำนวน ๑๓,๕๕๘.๓๔ บาท ไว้ตามคำสั่งศาลในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ระหว่างนายรามบริชดูเบ โจทก์ นายวิชิต คุณะเกษมจำเลย เพื่อรอฟังคำสั่งศาลเกี่ยวกับคำขอเฉลี่ยทรัพย์ของโจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ นั้น และรอฟังโจทก์ในคดีนี้จะดำเนินการเกี่ยวกับเงินจำนวนนี้ต่อไป
โจทก์ในคดีนี้ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ธนาคารออมสินได้ส่งเงินของจำเลยมาให้กองบังคับคดีแพ่งเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๑๖ แต่โจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ร้องขอให้ศาลอายัดในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๑๖ ล่วงพ้นกำหนดระยะเวลา ๑๔ วัน โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอเฉลี่ยโจทก์ในคดีนี้ยังมีสิทธิได้รับเงินที่ธนาคารออมสินส่งมาตามคำร้องอายัดเต็มจำนวน ขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงิน ๑๓,๕๕๘.๓๙ บาท ที่กันไว้ให้แก่โจทก์ในคดีนี้
ศาลชั้นต้นนัดโจทก์ในคดีนี้โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ และเจ้าพนักงานบังคับคดีมาสอบถาม แล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินที่ขออายัดไว้ตามส่วนที่มีสิทธิจะได้ตามคำบังคับ ส่วนโจทก์ในคดีนี้แม้จะยื่นคำร้องอายัดภายหลังที่โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ได้ขออายัดไว้ชั่วคราว ก็ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๙๐ มีสิทธิได้รับชำระหนี้โดยส่วนเฉลี่ยเท่าเทียมกับโจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ มีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ในคดีนี้ลงวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๑๖ ซึ่งได้ยื่นไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖
โจทก์ในคดีนี้อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ไม่ได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยไว้ จึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินจำนวนนี้พิพากษากลับ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่กันไว้ตามคำสั่งศาลในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ให้โจทก์ในคดีนี้ตามจำนวนที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้
โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ฎีกา
ข้อเท็จจริงได้ความว่า คดีนี้ธนาคารออมสินได้รับหมายอายัดเงินของจำเลยจากเจ้าพนักงานบังคับคดีครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๑๖ แต่ธนาคารออมสินแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าจำเลยยังทำงานอยู่ จึงไม่ส่งเงินที่ขออายัดมาให้ต่อมาโจทก์แถลงว่า จำเลยลาออกแล้ว ขอให้อายัดอีกครั้ง เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ขออายัดไปอีก ธนาคารออมสินได้รับหมายอายัดเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๑๖ และได้ส่งเงินที่ขออายัดมาให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๑๖ ส่วนคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ศาลได้ออกหมายอายัดชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาถึงธนาคารออมสินเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๑๖ และโจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ไม่ได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยหนี้ในคดีนี้ไว้
ปัญหาว่า การที่ศาลมีคำสั่งในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ให้อายัดชั่วคราวก่อนคำพิพากษาไว้ก่อนโจทก์ในคดีนี้ขอให้ออกหมายอายัดเงินจำนวนเดียวกัน ต่อมาเมื่อโจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ชนะคดีแล้วได้ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและขอให้ศาลเรียกเงิน ๑๙,๐๐๐ บาท อันเป็นส่วนหนึ่งของจำนวนเงินที่ธนาคารออมสินส่งมาตามหมายอายัดของโจทก์ในคดีนี้ เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ในคดีใดได้รับเงินจำนวน ๑๓,๕๕๘.๓๙ บาท ตามส่วนเฉลี่ยที่เจ้าหนี้ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ จะพึงได้รับ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลมีคำสั่งในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ให้อายัดเงินของจำเลยไว้ก่อนโจทก์ในคดีนี้ และธนาคารออมสินผู้รับคำสั่งอายัดมิได้ปฏิเสธคำอายัดนั้นแต่ประการใด คำสั่งอายัดจึงมีผลตามกฎหมาย แม้คำสั่งอายัดในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ จะเป็นคำสั่งอายัดชั่วคราวก่อนพิพากษา แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาในคดีนั้นให้จำเลยใช้หนี้ให้โจทก์ในคดีนั้นแล้วโจทก์ ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ก็ได้ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี และขอให้ศาลเรียกเงินที่ธนาคารออมสินส่งมาตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีนี้เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ ในคดีนั้นถือได้ว่าโจทก์ได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๐(๒) แล้ว คำสั่งอายัดชั่วคราวยังมีผลอยู่ ธนาคารออมสินจะนำเงินที่ศาลมีคำสั่งอายัดชั่วคราวไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ส่งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีอื่นที่ขออายัดภายหลังอีกไม่ได้ แต่เมื่อส่งมาแล้วก็ชอบที่จะกันเงินจำนวนนั้นไว้ชำระหนี้ให้โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ๕๔๙๒/๒๕๑๖ ด้วย ส่วนที่โจทก์ทั้งสองคดีจะควรได้รับเป็นส่วนเฉลี่ยจากเงินทั้งหมดที่ธนาคารออมสินส่งมาหรืออย่างไรนั้น ไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องของโจทก์ในคดีนี้ลงวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๑๖

Share