แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีก่อนโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักย้ายหลักเขตต์ที่ดินที่จำเลยขายแก่โจทก์ ขอให้จำเลยส่งมอบที่ดินที่ขาด หรือใช้ราคา ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องยักย้ายหลักเขตต์เป็นเรื่องเนื้อที่ที่ซื้อขายกันมีไม่ครบตามสัญญา และจะบังคับให้จำเลยใช้เงินราคาที่ดินไม่ได้ เพราะเป็นการฟ้องเรียกราคาที่ดินที่ขาด พิพากษายกฟ้อง โจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีใหม่เรียกเงินที่ชำระให้แก่จำเลยเกินไป อันเป็นการฟ้องเรียกเงินคืนฐานลาภมิควรได้ จึงนำอายุความตามมาตรา 467 มาบังคับไม่ได้ ต้องบังคับตามมาตรา 419 ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการเรียกคืนลาภมิควรได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ชำระราคาที่ดินที่จำเลยขายให้โจทก์เกินไป ๕,๖๗๕ บาท ๔๒ สตางค์และดอกเบี้ย ขอให้จำเลยคืน จำเลยต่อสู้ว่า ขายเหมาไม่ได้คิดราคาซื้อขายกันเป็นไร่ หากฟังตามฟ้องของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ย และฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ วันพิจารณาคู่ความรับกันว่าเคยพิพาทกันในคดีของศาลชั้นต้น คดีแดงที่ ๒/๒๔๘๙ โจทก์,จำเลยไม่ติดใจสืบพะยาน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้อง แต่ดอกเบี้ยไม่คิดให้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในข้อที่ว่า ฟ้องขาดอายุความ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีก่อนโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักย้ายหลักเขตต์ที่ดินที่จำเลยขายให้โจทก์ ขอให้จำเลยส่งมอบที่ดินที่ขาดหรือใช้ราคา ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าไม่ใช่เรื่องยักย้ายหลักเขตต์เป็นเรื่องเนื้อที่ที่ซื้อขายมีไม่ครบตามสัญญา และจะบังคับให้จำเลยใช้เงินราคาที่ดินไม่ได้ เพราะเป็นการฟ้องเรียกราคาที่ดินที่ขาด พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิฟ้องใหม่
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องฟ้องเรียกเงินที่ชำระให้แก่จำเลยเกินไป อันเป็นการฟ้องเรียกเงินคืนฐานลาภมิควรได้ ไม่ใช่เป็นการฟ้องขอให้จำเลยรับผิดในฐานทรัพย์ที่ขายขาดตกบกพร่องไปจากสัญญา จะนำอายุความตามมาตรา ๔๖๗ มาบังคับไม่ได้ ต้องบังคับตามมาตรา ๔๑๙ ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการเรียกคืนลาภมิควรได้ และข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์เพิ่มรู้ถึงสิทธิของตนที่จะฟ้องเช่นนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีเรื่องก่อน นับจากวันนั้นถึงวันฟ้องยังไม่เกิน ๑ ปี คดีหาขาดอายุความไม่
พิพากษายืน.