คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6742/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ย่อมแสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ศาลลงโทษจำเลยในข้อหาใดข้อหาเดียวเท่านั้น การที่จำเลยให้การรับสารภาพผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการจึงเป็นคำรับสารภาพที่ไม่สามารถรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดในข้อหาใดโจทก์จึงต้องนำพยานเข้าสืบเพื่อให้ได้ความว่าจำเลยกระทำผิดในข้อหาใดข้อหาหนึ่ง แต่โจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความเช่นนั้น และแม้ว่าในคำร้องขอบรรเทาโทษของจำเลยจะมีเนื้อหาว่าจำเลยรับซื้อไมโครโฟนของกลางไว้เพื่อให้หลานใช้ร้องเพลงเล่นก็ตามแต่คำร้องขอบรรเทาโทษมิใช่คำให้การ แต่เป็นเพียงการขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและบรรยายเหตุผลต่าง ๆ ให้ศาลปรานีถึงแม้จะมีถ้อยคำที่อาจแสดงว่าจำเลยรับสารภาพในความผิดฐานใดฐานหนึ่งหรือมิได้รับสารภาพในความผิดฐานใดเลยก็มิอาจถือได้ว่าเป็นคำให้การของจำเลย เมื่อคำให้การของจำเลยไม่สามารถรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดในข้อหาใด ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่กับพวกเป็นคนร้ายลักทรัพย์ของผู้เสียหายหรือมิฉะนั้นภายหลังเวลาที่มีการลักทรัพย์ถึงเวลาที่ยึดทรัพย์ดังกล่าว จำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย และรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งเครื่องเล่นวีดีโอเทปและไมโครโฟนของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335, 336 ทวิ, 357, 83 และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 2,870 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การรับสารภาพฐานรับของโจร จำเลยที่ 2ให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 4 ให้การรับสารภาพผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 83 ให้จำคุกคนละ 4 ปี จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (ที่ถูก 335(3)(4)(7)(8) วรรคสอง)ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ จำคุก 6 ปี จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 อายุ 18 ปีเศษรู้สึกผิดชอบแล้วไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยทั้งสี่คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1ที่ 3 และที่ 4 คนละ 2 ปี และจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แล้ว ไม่สมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4และให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน2,870 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยที่ 3 และที่ 4 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 1และที่ 3 คนละ 2 ปี จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ1 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 4 และยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยที่ 1และที่ 3 คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 2,870 บาทแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าคดีนี้จำเลยที่ 4 ให้การรับสารภาพผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 ได้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 4 ในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ย่อมแสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ศาลลงโทษจำเลยที่ 4 ในข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาหนึ่งเดียวเท่านั้น หากจำเลยที่ 4 กระทำผิดในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยที่ 4 ย่อมไม่มีความผิดในข้อหารับของโจร หรือหากจำเลยที่ 4กระทำผิดในข้อหารับของโจรแล้วจำเลยที่ 4 ย่อมไม่มีความผิดในข้อหาลักทรัพย์ การที่จำเลยที่ 4 ให้การว่ารับสารภาพผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ จึงเป็นคำรับสารภาพที่ไม่สามารถรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 4 กระทำผิดในข้อหาใด เมื่อเป็นเช่นนี้โจทก์ต้องนำพยานเข้าสืบเพื่อให้ได้ความว่า จำเลยที่ 4 กระทำผิดในข้อหาใดข้อหาหนึ่งแต่โจทก์มิได้นำสืบพยานให้ได้ความเช่นว่านั้น คดีจึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 4 กระทำผิดข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยที่ 4 ได้ยื่นคำร้องขอบรรเทาโทษว่า จำเลยที่ 4 รับซื้อไมโครโฟนไว้2 อันในราคา 150 บาท อันหนึ่งดีอันหนึ่งเสีย โดยตั้งใจรับซื้อไว้เพื่อให้หลานใช้ร้องเพลงเล่นจึงขอความกรุณาได้โปรดพิจารณาโทษในสถานเบา… เช่นนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยที่ 4 เข้าใจฟ้องและรับสารภาพในข้อหารับของโจร ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 ในข้อหารับของโจรได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คำร้องขอบรรเทาโทษมิใช่คำให้การคำร้องนั้นเป็นการขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและบรรยายเหตุผลต่าง ๆเพื่อให้ศาลปรานี ถึงแม้จะมีถ้อยคำที่อาจแสดงว่ารับสารภาพในความผิดฐานใดฐานหนึ่งหรือมิได้รับสารภาพในความผิดฐานใดเลยก็มิอาจถือได้ว่าเป็นคำให้การของจำเลยที่ 4 ดังนั้น เมื่อคำให้การของจำเลยที่ 4ไม่สามารถรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 4 กระทำผิดในข้อหาลักทรัพย์หรือข้อหารับของโจร ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 ไม่ได้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share