คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีเช่าบ้านอยู่อาศัย แล้วเดินทางไปศึกษาวิชาที่ต่างประเทศเป็นการชั่วคราวภริยาคงอยู่อาศัยต่อมาในบ้านเช่านั้น เป็นการอยู่โดยอาศัยสิทธิของสามี ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ภริยาไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านเลขที่ 96 ซอยรามบุตรี ถนนจักรพงษ์ อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร ได้ให้นายชัยประภา นพคุณ เช่าในอัตราค่าเช่าเดือนละ 150 บาท โดยไม่มีสัญญาเช่า ในปัจจุบันนี้นายชัยประภาได้เลิกเช่า โดยย้ายทะเบียนสำมะโนครัวและออกไปตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2496 ส่วนบ้านเลขที่ 96 นั้น ปรากฏว่าจำเลยได้อยู่โดยปราศจากอำนาจเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ได้บอกกล่าวแก่จำเลยเพื่อให้ออกจากบ้านของโจทก์จำเลยไม่ยอมออก โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านเช่าของโจทก์ และขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 150 บาท

จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นภริยานายชัยประภา นพคุณ โดยชอบด้วยกฎหมาย นายชัยประภาได้เช่าบ้านเลขที่ 96 ของโจทก์มาหลายปีแล้ว และได้ใช้อยู่อาศัยกับจำเลยและลูก ๆ ตลอดมานายชัยประภายังมิได้เลิกการเช่าหากแต่นายชัยประภาได้รับทุนของกระทรวงยุติธรรมให้ไปศึกษาวิชากฎหมายต่อณ ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2496การที่นายชัยประภาย้ายสำมะโนครัวออกไปจากบ้านก็เป็นเพราะระเบียบปฏิบัติทางกฎหมายในการที่จะเดินทางไปต่างประเทศนั้นผู้ทำใบเดินทางจะต้องย้ายสำมะโนครัวออกชั่วคราวก่อน จนกว่าจะกลับมาประเทศไทยก็จะย้ายกลับเข้าตามเดิม นายชัยประภาไปเพียงชั่วคราวเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิใช่เป็นการเลิกเช่ากับโจทก์จำเลยกับลูก ๆ ก็อยู่โดยอาศัยสิทธิของนายชัยประภาผู้เป็นสามีโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งโจทก์ไม่เคยบอกกล่าวอย่างใดกับจำเลย

ข้อเท็จจริงเป็นอันฟังได้ว่า จำเลยเป็นภริยานายชัยประภานพคุณ โดยชอบด้วยกฎหมาย นายชัยประภา นพคุณ สามีจำเลยเป็นผู้เช่าบ้านรายพิพาทจากโจทก์ โดยไม่มีสัญญาเช่าต่อกันนายชัยประภา นพคุณ ได้เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ณประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทุนของกระทรวงยุติธรรม นายชัยประภาได้ย้ายทะเบียนสำมะโนครัวออกไปจากบ้านรายพิพาท ในบ้านคงมีจำเลยกับลูก ๆ ของนายชัยประภาอยู่ โดยมีทะเบียนสำมะโนครัวอยู่ในบ้านนี้

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่นายชัยประภาย้ายทะเบียนสำมะโนครัวออกไปจากบ้านรายพิพาทเป็นเพียงปฏิบัติไปตามระเบียบและกฎหมายเพื่อการเดินทางไปศึกษาวิชากฎหมาย ณ สหรัฐอเมริกา เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีเจตนาที่จะย้ายหรือละทิ้งภูมิลำเนาเดิมในประเทศไทย ฉะนั้นจึงยังถือไม่ได้ว่า นายชัยประภาได้เลิกสัญญาเช่าบ้านรายพิพาทกับโจทก์จำเลยซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายชัยประภาก็ย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน และชอบที่จะอยู่ในบ้านรายพิพาทนี้ได้โดยอาศัยสิทธิของนายชัยประภา หาเป็นการละเมิดไม่ โจทก์จะฟ้องขับไล่ไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง ค่าธรรมเนียมค่าทนายให้เป็นพับไป

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของทนายโจทก์ และได้ประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว บ้านพิพาทนี้เป็นอันรับกันว่านายชัยประภาได้เช่ามาจากโจทก์ ฉะนั้น จำเลยซึ่งเป็นภริยานายชัยประภาก็ย่อมอยู่ในบ้านนี้กับนายชัยประภาได้ การเช่ารายนี้แม้ไม่มีหนังสือเช่าแต่นายชัยประภาได้เช่าเพื่ออยู่อาศัย การเช่าจะมีหนังสือต่อกันหรือไม่ นายชัยประภาก็ย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน การที่นายชัยประภาเดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายที่สหรัฐอเมริกาเป็นการไปชั่วคราว และที่ต้องย้ายทะเบียนสำมะโนครัวไปจากบ้านนี้ก็เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบการของการไปต่างประเทศมิใช่โดยเจตนาจะเลิกการเช่าบ้านนี้การที่จำเลยคงอยู่ในบ้านนี้ก็โดยเป็นครอบครัวนายชัยประภาโดยอาศัยสิทธินายชัยประภาและโดยภาระของนายชัยประภานายชัยประภาจึงเป็นผู้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่เช่าเหมือนกันจำเลยจึงอยู่โดยอาศัยสิทธิของนายชัยประภา หาได้อยู่โดยละเมิดไม่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ชอบแล้ว

จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย

Share