แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยไปลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์รู้ตัวเข้าจับ จำเลยวิ่งหนีและได้ทำร้ายเจ้าทรัพย์เพื่อหลบหนีให้พ้นอาญา แม้จะทำการลักทรัพย์ไม่สำเร็จ จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานชิงทรัพย์
อ้างฎีกาที่ 541/81
ย่อยาว
คดีได้ความว่า จำเลยมีปืนและมีดตัดฝาเร้าไก่ แล้วใช้มือล้วงเข้าไปเพื่อจะลักไก่ เจ้าทรัพย์กับพวกรู้ตัวจะเข้าจับ จำเลยใช้ปืนตีเจ้าทรัพย์บาดเจ็บเพื่อหลบหนีให้พ้นอาญา แต่เอาไก่ไปไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์ตาม ม.๓๐๐,๖๐
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยได้กระทำผิดเพียงฐานพยายามลักทรัพย์ เมื่อจำเลยได้วิ่งหนีไปแล้ว แม้จะได้ทำร้ายเจ้าทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาก็ดี ก็ไม่ต้องด้วยมาตรา ๒๔๘ เพราะไม่ใช่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลย ๒ กะทงคือ ฐานพยายามลักทรัพย์ และฐานทำร้ายร่างกาย
จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษฐานพยายามชิงทรัพย์
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.๒๔๘ ได้ใช้ถ้อยคำว่า “ผู้ใดได้ลักทรัพย์ด้วยใช้กำลังทำร้ายฯ เพื่อเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง” ประกอบกับในข้อ ๕ แห่งมาตรานี้ว่า “เพื่อจะหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา สำหรับความผิดนั้น มีผิดฐานชิงทรัพย์” ฯลฯ พิจารณาฉะเพาะมาตรานี้ ก็อาจเข้าใจไปอย่างคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ได้ แต่ถ้าพิจารณามาตรา ๖๐ ซึ่งบัญญัติเรื่องตามผิดฐานพยายามกระทำผิดประกอบเข้าด้วยแล้ว จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น