คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ได้เสียเป็นสามีภรรยากันโดยทางลักพาเมื่อหญิงอายุได้ 15 ปีแล้วเข้ามากินอยู่ที่บ้านบิดามารดาของภรรยา ไม่ทันไรก็ลักพาน้องสาวภรรยาอายุ 15 ปีไปอีก ดังนี้ถือได้ว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้หญิงฟ้องหย่าได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากกัน

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่จำเลยได้เสียกับน้องสาวของภรรยาของจำเลย ไม่ใช่เป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่เป็นเหตุให้หย่าให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์จำเลยได้เป็นสามีภรรยากันโดยทางลักพาเมื่อโจทก์อายุได้ 15 ปี ได้จดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2487 โจทก์ได้พาจำเลยมาอาศัยอยู่ที่บ้านของบิดามารดาโจทก์ ครั้นเดือน 4 พ.ศ. 2487 จำเลยได้พาน้องสาวโจทก์อายุ 15 ปี ไปเป็นภรรยา แล้วจำเลยไปอยู่ที่อื่น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมีนิสัยชอบลักพาหญิงผู้เยาว์ ครั้งลักพาโจทก์ย่อมทำความชอกช้ำให้แก่บิดามารดาโจทก์มาก ต่อมามารดาโจทก์กรุณาให้มาอาศัยอยู่ด้วยน่าจะรู้สึกสำนึกถึงความดีมีคุณของมารดาโจทก์บ้าง กลับมาลักพาน้องสาวโจทก์ไปเพื่อความใคร่ของตนอีก ความเจ็บช้ำระทมใจของโจทก์และมารดาจะมีสักเพียงใด สำหรับความเห็นของบุคคลอื่น ๆ ย่อมจะเห็นว่าจำเลยประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้หย่าขาดได้ตามมาตรา 1500(2) จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น

Share