แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้จำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปทั้งหมดเจ้าพนักงานตำรวจจับได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนทั้งหมดเป็นของกลาง ผลการตรวจพิสูจน์ของกลางทั้ง 780 เม็ดพบว่ามีปริมาณเมทแอมเฟตามีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 10.783 กรัม และมีปริมาณอีเฟดรีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 0.618 กรัม โดยของกลางแต่ละเม็ดมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน ดังนี้ เมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดแต่ละเม็ดถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนที่มีอีเฟดรีนผสมอยู่จึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิด เพียงกรรมเดียว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2540 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1จำนวน 780 เม็ด มีเมทแอมเฟตามีนเป็นสารบริสุทธิ์ผสมอยู่หนัก 10.783 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวทั้งหมดให้แก่บุคคลผู้มีชื่อซึ่งไปล่อซื้อในราคา 50,000 บาทโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และจำเลยมีอีเฟดรีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 จำนวน 780 เม็ด มีอีเฟดรีนเป็นสารบริสุทธิ์ผสมอยู่หนัก 0.618 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อขาย โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และขายอีเฟดรีนดังกล่าวทั้งหมดให้แก่บุคคลผู้มีชื่อซึ่งไปล่อซื้อในราคา 50,000 บาท เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนดังกล่าวซึ่งผสมอยู่ในเม็ดเดียวกันและธนบัตรจำนวน 50,000 บาท ซึ่งเจ้าพนักงานใช้ล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนดังกล่าวเป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 13 ทวิ, 89ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนที่ผสมอยู่ด้วยกันของกลางทั้งหมดและให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 35/2540 หมายเลขแดงที่ 1464/2540ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่งพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 13 ทวิ, 89 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 12 ปี ฐานขายวัตถุออกฤทธิ์จำคุก 12 ปี รวมจำคุก 24 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 12 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลาง ให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1464/2540 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยกระทำความผิดกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 12 ปี เพียงกระทงเดียว จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าตามวันเวลาเกิดเหตุจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้จำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปทั้งหมดในราคา 50,000 บาท จึงถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนทั้งหมดพร้อมด้วยธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อ 50,000 บาทดังกล่าวไว้เป็นของกลาง ผลการตรวจพิสูจน์ของกลางทั้ง 780 เม็ดพบว่ามีปริมาณเมทแอมเฟตามีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 10.783 กรัม และมีปริมาณอีเฟดรีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 0.618 กรัม โดยของกลางแต่ละเม็ดมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1และขายอีเฟดรีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เพียงกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน เห็นว่า เมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดแต่ละเม็ดถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1เมทแอมเฟตามีนที่มีอีเฟดรีนผสมอยู่จึงเป็นวัตถุอันเดียวการที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว หาใช่เป็นการกระทำผิดหลายกรรมไม่
พิพากษายืน