แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ก่อนที่โจทก์จะกระทำความผิด อันเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างนั้นโจทก์เคยถูกจำเลยตักเตือนเป็นหนังสือมาแล้ว 2 ครั้งเนื่องจากเหตุที่โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยโดยไม่มีเหตุสมควร แม้การกระทำผิดครั้งก่อน ๆ กับการกระทำผิดครั้งสุดท้ายนี้จะเป็นการกระทำผิดซ้ำในเหตุเดียวกัน แต่คำตักเตือนนั้นล่วงเลยมาแล้วถึง 2 ปีเศษมีอายุเนิ่นนานเกินสมควรที่จะนำมาพิจารณาสำหรับการเลิกจ้างในการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับครั้งหลังดังนั้น เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงต้องจ่ายค่าชดเชยแต่การกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการกระทำไปในประการที่ไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 จำเลยจึงเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์ทำผิดระเบียบของจำเลยซึ่งเป็นกรณีที่ไม่ร้ายแรงและจำเลยมิได้ตักเตือนเป็นหนังสือและมิได้บอกเลิกจ้างล่วงหน้าจึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าโจทก์ทำผิดระเบียบของจำเลยโดยหยุดงานไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าจำเลยได้ตักเตือนเป็นหนังสือต่อมาโจทก์ไม่เข้าเวรตามหน้าที่โดยไม่แจ้งให้จำเลยทราบล่วงหน้าและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์และได้จ่ายค่าจ้างให้โจทก์เต็มเดือนในเดือนนั้นไปแล้วขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2527 โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยและโดยไม่มีเหตุสมควรจำเลยได้ตักเตือนเป็นหนังสือให้โจทก์ลงชื่อรับทราบไว้ต่อมาวันที่13-14 พฤษภาคม 2527 โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าและไม่มีเหตุสมควรจำเลยได้ตักเตือนเป็นหนังสือให้โจทก์ลงชื่อรับทราบไว้อีกต่อมาวันที่ 2 กันยายน 2529 โจทก์ไม่เข้าเวรโดยที่ทราบอยู่แล้วว่าจะต้องเข้าเวรและไม่ยื่นใบลาล่วงหน้าโดยไม่มีเหตุสมควรในวันที่ 3 กันยายน 2529 โจทก์ได้กลับมาทำงานและยื่นใบลาลงวันที่ย้อนหลังจำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ศาลฎีกาเห็นว่าก่อนที่โจทก์จะกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างนั้นโจทก์เคยถูกจำเลยตักเตือนเป็นหนังสือมาแล้ว2 ครั้งเนื่องจากเหตุที่โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยโดยไม่มีเหตุสมควร แม้การกระทำผิดครั้งก่อน ๆ กับการกระทำผิดในครั้งสุดท้ายนี้จะเป็นการกระทำผิดซ้ำในเหตุเดียวกันโดยจำเลยเคยตักเตือนเป็นหนังสือแล้วก็ตามแต่คำตักเตือนนั้นล่วงเลยมาแล้วถึง 2 ปีเศษมีอายุเนิ่นนานเกินสมควรที่จะนำมาเป็นข้อพิจารณาสำหรับการเลิกจ้างในการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับครั้งหลัง ดังนั้นเมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์แต่อย่างไรก็ตามการกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการกระทำในประการที่ไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 583 จำเลยจึงเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 13,350 บาทแก่โจทก์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง.