แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งโดยชัดแจ้งว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบ ไม่ถูกต้องในข้อไหน ประเด็นใด จำเลยเห็นว่าที่ถูกควรเป็นอย่างไรมีข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน หรือมีข้อกฎหมายใดสนับสนุน เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่า นาพิพาทเป็นของโจทก์และนายลอร่วมกัน และที่ดินปลูกบ้านเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การหลายประการและกล่าวด้วยว่าโจทก์และนายคำภาบิดานายลอไม่มีสิทธิและส่วนได้ในที่ดินตามฟ้องแต่อย่างใด และคดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า ที่พิพาทเป็นมรดกของนายสา นางทา ตกทอดมายังโจทก์และนายคำภา โจทก์ครอบครองที่พิพาทส่วนที่ปลูกบ้าน และนายกิ นางทุมบิดามารดาจำเลยกับจำเลยครอบครองที่นาพิพาทมาแต่ฝ่ายเดียวตลอดมา ฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับที่นาพิพาทขาดอายุความ แต่สำหรับที่พิพาทซึ่งเป็นที่ปลูกบ้านยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาฟ้องร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374พิพากษาว่า ที่พิพาทซึ่งเป็นที่ปลูกบ้านซึ่งอยู่ทางทิศเหนือมีเนื้อที่น้อยกว่าด้านทิศใต้ครึ่งเท่าเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ที่ดินนาตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องเฉพาะภายในเส้นสีน้ำเงินเป็นที่ซึ่งโจทก์และนายคำภาบิดานายลอได้รับส่วนแบ่งจากนางทุมมารดาจำเลยและครอบครองทำกินอยู่ พิพากษาแก้เป็นว่า ที่ดินนาตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องภายในเส้นสีน้ำเงินเป็นที่ดินของโจทก์และนายลอร่วมกัน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งโดยชัดแจ้งว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบ ไม่ถูกต้องในข้อไหนประเด็นใด จำเลยเห็นว่าที่ถูกควรจะเป็นอย่างไร มีข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานหรือตัวบทกฎหมายใดสนับสนุน เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของจำเลย