แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทำสัญญาขายฝากที่ดินกัน พอถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิขอไถ่แต่การแก้โฉนดขัดข้อเพราะที่ดินถูกอายัดไว้ อันไม่ใช่เป็นความผิดของฝ่ายผู้ซื้อหรือผู้ขายฝาก จึงต้องเลื่อนกำหนดไปวันอื่นซึ่งพ้นกำหนดเวลาไถ่คืนตามสัญญาแล้วเช่นนี้ต้องถือว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่คืนตามสัญญาแล้วผู้ซื้อฝากต้องยอมให้ไถ่ จะอ้างว่า มาไถ่เมื่อพ้นกำหนดสัญญาแล้วไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้ขายฝากที่ดินมีโฉนดให้แก่จำเลยเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๓ มีกำหนด ๑ ปี ก่อนครบกำหนดในสัญญาโจทก์จำเลยได้ตกลงจะไปไถ่ถอนกันในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๔ แต่ในวันนั้นไม่สามารถไถ่ถอนได้เพราะเจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่าที่ดินถูกอายัด จึงเลื่อนไปวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๔๙๔ ถึงวันนัดจำเลยบิดพลิ้วไม่ไปตามสัญญา วันหลังต่อมาได้นัดอีกจำเลยก็ไม่ไป จึงขอให้บังคับให้จำเลยรับไถ่ถอนที่พิพาท
จำเลยต่อสู้ว่าวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๔ โจทก์ไม่มีเงินมาไถ่ จึงเลื่อนไปวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๔๙๔ แต่โจทก์ก็ไม่ไปตามกำหนด จึงหมดสิทธิไถ่คืน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับไถ่ถอนแล้วคืนโฉนดให้โจทก์ไป
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๔ โจทก์จำเลยได้ไปยังหอทะเบียนที่ดินเพื่อทำการไถ่ถอนการขายฝายแต่โอนกันไม่ได้เพราะที่ดินถูกกองหมายอายัดไว้ ต่อมาโจทก์จำเลยนัดไปไถ่ถอนกันในวันที่ ๑๙ อีก แต่ก็ไม่ได้ไถ่ถอนกัน ภายหลังโจทก์มีหนังสือนัดจำเลย ๆ ปฏิเสธ ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาขายฝากครบกำหนด ๑ ปี ในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๔ เมื่อโจทก์ได้ใช้สิทธิขอไถ่ถอนในวันนั้นย่อมไถ่ได้ส่วนการแก้โฉนดกันไม่ได้นั้นไม่ใช้เป็นความผิดของฝ่ายใด จำเลยต้องยอมให้ไถ่ ฉนั้นศาลฎีกาจึงพิพากษายืน