คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญารับประกันภัยทรัพย์สินของโจทก์ กรมธรรม์ประกันภัยระบุว่ารับประกันวินาศภัยเฉพาะเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่า ปรากฏว่าได้เกิดวินาศภัยแก่ทรัพย์สินของโจทก์ ในระหว่างอายุสัญญาประกันภัยโดยหม้อน้ำระเบิด ทำให้ทรัพย์สินหลายอย่างต้องวินาศไป สาเหตุเกิดจากสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับใช้กับเครื่องปั๊มน้ำเย็นได้ รับความร้อนสูงเกินขนาดจนฉนวนชำรุดไหม้ละลาย สายลวดทองแดงกระทบกันเกิดการลัดวงจร เป็นเหตุให้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องปั๊มน้ำหยุดทำงาน ไม่ส่งน้ำเย็นเข้าหม้อต้มน้ำส่วนน้ำร้อนที่มีอยู่ในหม้อต้มน้ำก็จะไหลออกแต่อย่างเดียว ในขณะเดียวกันเตาเหล็กซึ่งใช้ระบบหัวฉีดก็ยังพ่นความร้อนเข้าไปในท่อให้ความร้อนภายในหม้อต้มน้ำอยู่ตลอดเวลา ไอน้ำในหม้อต้มน้ำได้รับความร้อนสูงเรื่อย ๆ ก็ขยายตัว มีความดันเกินกว่าหม้อต้มน้ำร้อนจะทนทานได้ จึงเกิดระเบิดขึ้นดังนี้ ความวินาศของโจทก์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ยังไม่พอฟังว่าเกิดเพราะเพลิงไหม้อันจำเลยจำต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามนิโลบล เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2513 จำเลยทั้งสี่ทำสัญญารับประกันภัยห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามนิโลบล มีกำหนด 1 ปี ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยได้แก่เครื่องเฟอร์นิเจอร์เครื่องปรับอากาศ เครื่องตกแต่งสถานที่ สิ่งของเครื่องใช้ติดตั้งตรึงตรา จำนวนเงินที่เอาประกันภัยทั้งหมด 1,500,000 บาท แบ่งเฉลี่ยประกันสำหรับจำเลยที่ 1เป็นเงิน 800,000 บาท จำเลยที่ 2 เป็นเงิน 250,000 บาท จำเลยที่ 3 เป็นเงิน250,000 บาท จำเลยที่ 4 เป็นเงิน 200,000 บาท ต่อมาวันที่ 3 มกราคม 2514ได้เกิดวินาศภัยขึ้นกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยดังกล่าว เนื่องจากไฟไหม้ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจร เป็นเหตุให้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องสูบน้ำหยุดทำงาน ทำให้หม้อต้มน้ำเกิดความร้อนสูงจนระเบิดขึ้นทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้เสียหายตามบัญชีท้ายฟ้องเป็นเงิน 676,350 บาท ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามนิโลบลหรือสยามบริการอาบอบนวดในขณะนั้นได้แจ้งให้จำเลยทั้งสี่ทราบในคืนเกิดเหตุนั้นเองว่าได้เกิดไฟฟ้าช๊อต (ลัดวงจร) ทำให้ทรัพย์สินที่เอาประกันไว้เสียหาย 800,000 บาท ขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย ผู้แทนจำเลยทั้งสี่จะชำระค่าเสียหายให้เพียงบางส่วน จึงตกลงกันไม่ได้ ต่อมาจำเลยทั้งสี่แจ้งว่าเหตุแห่งวินาศภัย เกิดจากการระเบิดของหม้อต้มน้ำ มิได้เกิดจากไฟฟ้าช๊อต จำเลยไม่ต้องรับผิด จำเลยจะใช้ค่าเสียหายในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้และฟ้าผ่าเท่านั้น จึงขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ชำระเงินให้แก่โจทก์ คือจำเลยที่ 1 เงิน 360,720 บาท จำเลยที่ 2 เงิน 112,725 บาท จำเลยที่ 3 เงิน 112,725 บาทจำเลยที่ 4 เงิน 90,180 บาท รวมเป็นเงิน 676,350 บาท และดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสี่ให้การว่า จำเลยจะรับผิดชอบวินาศภัยที่เกิดจากไฟไหม้หรือฟ้าผ่าเท่านั้น วินาศภัยที่เกิดขึ้นกับโจทก์เกิดจากการระเบิดของหม้อน้ำ จำเลยจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ฯลฯ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า ในจำนวนความเสียหาย 628,700 บาทให้จำเลยที่ 1 ชดใช้โจทก์ 16 ส่วน จำเลยที่ 2 ที่ 3 ชดใช้บริษัทละ 5 ส่วน จำเลยที่ 4ชดใช้ 4 ส่วน กับให้จำเลยทุกบริษัทเสียดอกเบี้ยเงินที่แต่ละบริษัทต้องชำระให้โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยทั้งสี่ฎีกา

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ได้ทำสัญญาเอาประกันภัยไว้กับบริษัทจำเลยทั้งสี่แล้วเกิดวินาศภัยแก่ทรัพย์สินของโจทก์เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2514 หม้อน้ำระเบิดขึ้นบนดาดฟ้าของชั้นที่ 4 สาเหตุเกิดจากสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับใช้กับเครื่องปั๊มน้ำ (เย็น) นั้น สายลวดทองแดงได้รับความร้อนสูงเกินขนาดจนฉนวนชำรุดไหม้ละลาย สายลวดทองแดงกระทบกันเกิดการลัดวงจรเป็นเหตุให้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องปั๊มน้ำหยุดทำงาน ไม่ส่งน้ำ (เย็น เข้าหม้อต้มน้ำ ส่วนน้ำร้อนที่มีอยู่ในหม้อต้มน้ำก็จะไหลออกแต่อย่างเดียว ในขณะเดียวกันเตาเหล็กซึ่งใช้ระบบหัวฉีดก็ยังพ่นความร้อนเข้าไปในท่อให้ความร้อนภายในหม้อต้มน้ำอยู่ตลอดเวลา ไอน้ำในหม้อต้มน้ำได้รับความร้อนสูงเรื่อย ๆ ก็ขยายตัว มีความดันเกินกว่าหม้อต้มน้ำร้อนจะทนทานได้ จึงเกิดระเบิดขึ้นผลของการระเบิดนั้นทำให้ทรัพย์สินของโจทก์หลายอย่างต้องวินาศไป

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.4จำเลยทั้งสี่ประกันวินาศภัยเฉพาะเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่าแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยปรากฏจากคำเบิกความของพันตำรวจโทชัชวาลย์ สุมาวงศ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันพยานโจทก์เบิกความว่า ได้ไปตรวจที่เกิดเหตุแล้ว มีรอยไฟไหม้ที่สายไฟที่อยู่ใกล้มอเตอร์ ร่องรอยไฟไหม้นอกจากนี้ไม่มี นายสมชัย จิตติพลังศรี ผู้ชำระบัญชีห้างโจทก์ ก็เบิกความว่า สายทองแดงที่เดินไปยังมอเตอร์ละลาย รอยไหม้ยาวประมาณ 1 คืบ พยานโจทก์ปากอื่นในส่วนที่เกี่ยวกับไฟไหม้ก็ได้ความทำนองเดียวกันนี้ ความวินาศของโจทก์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ยังไม่พอฟังว่าเกิดเพราะเพลิงไหม้ อันจำเลยทั้งสี่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัย ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share