คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เพียงแต่ให้ผู้อื่นจดข้อความเท็จลงไปแล้วจำเลยลงลายมือชื่อของตนไว้ในหนังสือนั้นก็ต้องเป็นผิดตามมาตรา 230 ได้ อ้างฎีกาที่ 533/539/2481, จำเลยจดข้อความเท็จลงในบันทึกแจ้งความรับสินบนนำจับยื่นว่าจำเลยเองเป็นผู้นำจับฝิ่นได้ขอรับค่าสินบนแล้วนำไปยื่นต่อเจ้าพนักงานดังนี้ ยังไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
อ้างฎีกาที่ 1269/2481 ,347/2472

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านายหมื่นเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รับแจ้งความขอรับสินบนนำจับฝิ่น จำเลยทั้ง ๔ ได้สมคบกันเอาความเท็จมาจดลงในใบบันทึกแจ้งความรับสินบนนำจับฝิ่นว่านายบุญจู จำเลยเป็นผู้แจ้งความรับสินบนนำจับฝิ่นแล้วนำหนังสือนั้นแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์จังหวัด ๆ หลงเชื่อจ่ายเงินให้ไป โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ม.๑๑๘,๒๓๐,๓๐๔
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนานหมื่นตาม ม.๒๓๐ ผู้เดียวมีกำหนด ๕ ปี ข้อหาในเรื่องแจ้งความเท็จและฉ้อโกงให้ยก จำเลยอื่นอีก ๓ คนให้ปล่อย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่านายบุญจู นายชื่น นายตื้อ จำเลยมีความผิดตาม ม.๒๒๕(๑) ให้จำคุก ๓ ปีนอกนั้นยืนตาม
โจทก์และจำเลยทุกคนฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าฎีกาโจทก์ที่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและฉ้อโกงนั้น เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๒๑๙ ฎีกาของนายหมื่นจำเลยที่คัดค้านว่าบันทึกแจ้งความรับสินบนนั้นคนอื่นเป็นผู้จด จำเลยเพียงแต่ลงลายมือชื่อไม่ควรมีผิดนั้น เห็นว่าเพียงแต่จำเลยให้ผู้อื่นจดข้อความเท็จลงไปแล้วจำเลยเลงลายมือชื่อของตนไว้ในหนังสือนั้นก็เป้นผิดตามนัยฎีกาที่ ๕๓๓-๕๓๙/๒๔๘๑ และ ๓๔๗/๒๔๘๒ จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ให้ปล่อยจำเลย ๓ คน หลังนี้ไปนอกนั้นยืนตาม

Share