คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 กับพวกอีกหนึ่งคนร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยพวกของจำเลยจับขาผู้เสียหายไว้ให้จำเลยที่ 2 ข่มขืนกระทำชำเราก่อน เสร็จแล้วจำเลยที่ 2 มายืนคุมให้พวกของตนข่มขืนกระทำชำเราอีกจนสำเร็จความใคร่คนละครั้งเช่นนี้เข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง
จำเลยที่ 2 กับพวกอุ้มผู้เสียหายขึ้นจากเรือเพื่อพาไปข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่ปรากฏว่าได้กระทำอนาจารอย่างอื่นแก่ผู้เสียหายอีกจะถือว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ด้วยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังหลบหนีอีก 1 คนร่วมกันกระทำอนาจารนางสาวบังอร ซ่อนกลิ่น ผู้เสียหายซึ่งมิใช่ภริยาของจำเลยโดยร่วมกันใช้มีดปลายแหลมขู่เข็ญและใช้กำลังประทุษร้ายบีบคอฉุดกระชากอุ้มผู้เสียหายไปเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา แล้วจำเลยที่ 2 กับพวกร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 278, 83

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำผิด จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับผู้อื่นกระทำความผิดดังโจทก์ฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง, 278, 83 แต่เห็นว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทจึงให้ลงโทษตามมาตรา 276 วรรคสองซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก 12 ปี จำเลยที่ 2 ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 8 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 1

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า คืนเกิดเหตุผู้เสียหายกับนางสาวลออ ซ่อนกลิ่น น้องสาวขับเรือจ้างส่งผู้โดยสารข้ามแม่น้ำปิง จำเลยที่ 2กับนายเงาะพวกของจำเลยใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับอุ้มผู้เสียหายไปถึงโคนต้นไม้ห่างเรือประมาณ 10 วา แล้วกดผู้เสียหายให้นอนกับพื้นดิน นายเงาะขู่ไม่ให้ร้องพวกของจำเลยจับขาผู้เสียหายไว้ให้จำเลยที่ 2 ข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ของจำเลยที่ 2 ก่อน แล้วจำเลยที่ 2 ยืนคุมให้พวกของตนข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่อีก ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 กับพวกเข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง แต่ที่ศาลชั้นต้นวางบทกำหนดโทษจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ด้วยนั้นไม่ถูกต้อง เพราะจากข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ปรากฏว่ามีการกระทำอนาจารอย่างอื่นแก่ผู้เสียหายอีก นอกจากอุ้มผู้เสียหายขึ้นไปจากเรือเพื่อพาไปข่มขืนกระทำชำเราอันเป็นความผิดตามมาตรา 276 อยู่แล้ว จะถือว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 278 ด้วยหาได้ไม่

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง, 83 ส่วนกำหนดโทษและลดโทษคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share