แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บัญชีระบุพยานโจทก์ระบุว่าอันดับ 1 โจทก์อ้างตนเองเป็นพยาน อันดับ 2 นางพเยาว์ เจิมท่า เมื่อนางพเยาว์เป็นโจทก์คดีนี้ซึ่งได้มอบอำนาจให้ ส. ฟ้องคดีแทน การที่บัญชีระบุพยานโจทก์อ้างทั้งโจทก์และนางพเยาว์ซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันเป็นคนละอันดับทำให้เห็นได้ว่าพยานอันดับ 1 ที่ทนายโจทก์มุ่งประสงค์จะอ้างเป็นพยานคือ ส. ซึ่งได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์นั่นเอง ศาลจึงมีอำนาจรับฟังคำเบิกความของ ส. ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 88
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน ๓๕,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ไม่เคยกู้เงินโจทก์ ลายมือชื่อของผู้กู้ในสัญญากู้เงินไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ ๑ แต่เป็นลายมือชื่อปลอม ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน ๓๕,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๒) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๑,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ ๑ ว่า การที่ศาลชั้นต้นรับฟังคำเบิกความของนางสุกัญญา ปานปุย โดยบัญชีระบุพยานโจทก์มิได้ระบุอ้างนางสุกัญญาเป็นพยานชอบหรือไม่ เห็นว่า ตามบัญชีระบุพยานโจทก์ลงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๒ ระบุพยานอันดับ ๑ คือ โจทก์อ้างตนเองเป็นพยาน พยานอันดับ ๒ คือ นางพเยาว์ เจิมท่า เมื่อนางพเยาว์เป็นโจทก์คดีนี้ซึ่งได้มอบอำนาจให้นางสุกัญญาฟ้องคดีแทน การที่บัญชีระบุพยานโจทก์อ้างทั้งโจทก์และนางพเยาว์ซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันเป็นคนละอันดับทำให้เห็นได้ว่าพยานอันดับ ๑ ที่ทนายโจทก์มุ่งประสงค์จะอ้างเป็นพยานคือนางสุกัญญาซึ่งได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์นั่นเอง ศาลจึงมีอำนาจรับฟังคำเบิกความของนางสุกัญญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๘ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ มีคำพิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน ให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา ๑,๐๐๐ บาท แทนโจทก์.