คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่มีโทษปรับเกินกว่าสองพันบาท เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงด้วยวาจา หากศาลจะวางโทษและลดโทษแล้วเหลือโทษปรับไม่ถึงสองพันบาท ศาลแขวงย่อมมีอำนาจพิพากษาได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องด้วยวาจาว่าจำเลยบังอาจชนสุราจำนวน ๔๘๐ ขวด ปริมาณน้ำสุรา ๒๖๐ ลิตร โดยไม่ได้รับใบอนุญาตขนสุราจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๑๔, ๓๘,๔๕ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๘ ให้ริบของกลาง
จำเลยรับสารภาพ
ศาลแขวงพระนครเหนือ พิพากษาว่า จำเลยมีผิดตามฟ้อง ให้ปรับจำเลย ๔๐๐ บาท ลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่ง คงปรับ ๒๐๐ บาท ไม่ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยจะต้องถูกปรับตามปริมาณน้ำสุราที่ทำการขนลิตรละ๑ บาท เป็นเงิน ๓,๖๐๐ บาท เกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิพากษาได้ และผู้ว่าคดีจะฟ้องจำเลยด้วยวาจาหาได้ไม่ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่า ควรฟ้องคดีนี้ด้วยวาจาได้ ถ้าศาลแขวงพิพากษาไม่ได้ ก็ควรยกคำพิพากษาศาลแขวงเสีย แล้วพิพากษาใหม่ ไม่ควรยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ๆ มาตรา ๒๘ และพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา ๒๒ คดีมีโทษปรับเกินกว่าสองพันบาทบางเรื่องศาลแขวงก็มีอำนาจพิจารณาได้ แต่ศาลแขวงต้องใคร่ครวญว่า ในที่สุดจะต้องลงโทษเท่าใด ฉะนั้นเรื่องนี้ถ้าศาลแขวงลงโทษปรับตามกฎหมาย คือปรับ ๓,๖๐๐ บาท ลดแล้วคงปรับ ๑,๘๐๐ บาท ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิพากษาได้ โจทก์จึงฟ้องด้วยวาจาได้
พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๔, ๓๘ ทวิ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. สุรา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๘ ให้วางโทษปรับจำเลย ๓,๖๐๐ บาท ลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่งคงปรับ ๑,๘๐๐ บาท

Share