คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอยู่ในห้องเช่าโดยอาศัยอำนาจของโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องนั้นไว้ ภายหลังจำเลยไปบอกเจ้าของห้องเช่าว่า โจทก์โอนการเช่าห้องรายนี้ให้จำเลยแล้ว ซึ่งไม่ใช่ความจริง เจ้าของห้องจึงบอกเลิกการเช่ากับโจทก์ แล้วทำสัญญาให้จำเลยเช่าห้องนั้นต่อไป ดังนี้ ถือว่าเจ้าของห้องเช่าปฏิบัติผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับโจทก์และการกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนรอนสิทธิของโจทก์ ๆจึงมีสิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับให้เจ้าของห้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไปเสมือนว่าเจ้าของห้องไม่ได้บอกเลิกสัญญา และฟ้องจำเลยห้ามมิให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับห้องพิพาท ส่วนสัญญาเช่าห้องระหว่างจำเลยกับเจ้าของห้องนั้น ไม่มีผลกระทบกระเทือนสัญญเช่าของโจทก์กับเจ้าของห้อง จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องให้เพิกถอน

ย่อยาว

คดีได้ความว่า ห้องเช่ารายพิพาทนายทองแดงโจทก์เป็นผู้เช่าจากสำนักงานทรัพย์สิน ฯ จำเลยที่ ๒ และนายทองแดงโจทก์ได้ให้นายบุญเรืองจำเลยที่ ๑ ทำการค้ากับนายทองแดงที่ห้องรายนี้ด้วยต่อมานายทองแดงได้ให้นายจรัสโจทก์ ซึ่งเป็นน้องชายมาจัดการค้าขายอยู่ในห้องนี้ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๙๐ แล้วจำเลยที่ ๑ ได้ไปแจ้งแก่สำนักงานทรัพย์สิน ฯ จำเลยที่ ๒ ว่านายทองแดงโจทก์เลิกการเช่าห้องรายนี้ และโอนห้องรายนี้ให้จำเลยที่ ๑ แล้วจำเลยที่ ๑ ขอเช่าห้องรายนี้ต่อไป สำนักงานทรัพย์สิน ฯ จำเลยที่ ๒ จึงบอกเลิกสัญญาเดิมไปยังนายทองแดง และทำสัญญาลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๑ ให้จำเลยที่ ๑ เช่าห้องพิพาทต่อไป
โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลพิพากษาทำลายนิติกรรมสัญญาเช่าระหว่างจำเลยทั้งสองเสีย และสั่งให้สัญญาเช่าระหว่างโจทก์ที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ ใช้ได้ต่อไปหรือทำขึ้นใหม่ กับห้ามจำเลยที่ ๑ ไม่ใช่เกี่ยวข้องกับห้องรายนี้ต่อไป
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้วพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้องคดีอย่างนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สำนักงานทรัพย์สินฯ จำเลยที่ ๒ ได้ทำสัญญากับโจทก์โดยชอบแล้ว จำเลยที่ ๒ จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น การที่จำเลยที่ ๒ บอกเลิกสัญญากับนายทองแดงโจทก์เสียและทำสัญญาให้จำเลยที่ ๑ เช่าห้องพิพาทโดยไม่มีข้อต่อสู้หักล้างสัญญาที่ตนได้ทำให้นายทองแดงโจทก์ไว้เช่นนี้ ย่อมเป็นการผิดสัญญาต่อนายทองแดงโจทก์โดยจำเลยที่ ๒ ไม่ปฏิบัติตามสัญญานั้น นายทองแดงโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องให้บังคับจำเลยที่ ๒ ปฏิบัติตามสัญญาหรือขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญานั้นยังใช้ได้ต่อไปเสมือนว่า จำเลยที่ ๒ ไม่ได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์ และการที่จำเลยที่ ๑ จัดการให้จำเลยที่ ๒ ทำสัญญาให้ตนเช่าห้องรายนี้ โดยรู้อยู่ว่าโจทก์ยังเป็นผู้เช่าห้องรายนี้อยู่โดยชอบ ก็ย่อมเป็นการกระทำรบกวนสิทธิของนายทองแดง โจทก์ ๆ จึงมีสิทธิที่จะฟ้องให้บังคับห้ามจำเลยที่ ๑ ไม่ให้เกี่ยวข้องกับห้องรายนี้ต่อไปได้ แต่สัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ นั้น ไม่มีผลกระทบกระเทือนสัญญาเช่าระหว่างนายทองแดงโจทก์กับจำเลยที่ ๒ จึงหามีความจำเป็นที่จะต้องเพิกถอนไม่ และนายจรัสโจทก์ที่ ๒ นั้นมิได้เป็นคู่สัญญากับจำเลยที่ ๒ ด้วยจึงไม่มีอำนาจฟ้องอย่างนายทองแดงโจทก์
จึงพิพากษาแก้ว่า สัญญาเช่าห้องพิพาทระหว่างนายทองแดงโจทก์กับสำนักงานทรัพย์สิน จำเลยที่ ๒ ยังคงใช้ได้ต่อไปเสมือนว่า จำเลยที่ ๒ ไม่ได้บอกเลิกสัญญาห้ามไม่ให้จำเลยที่ ๑ เกี่ยวข้องกับที่พิพาท คำขอให้ทำลายสัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ ๑-๒ ให้ยกเสีย และยกฟ้องส่วนตัวนายจรัสโจทก์เสียด้วย

Share