แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทำหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้โจทก์และบริวารอาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทจนตลอดชีวิต เนื่องจากจำเลยผิดสัญญาตามบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยให้การว่าบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นการขัดต่อสัญญาประนีประนอมยอมความไม่สามารถบังคับได้ตามกฎหมายและจำเลยทำบันทึกข้อตกลงเพราะถูกโจทก์บังคับให้กระทำจึงตกเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และจำเลยไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญา จะเห็นได้ว่าจำเลยไม่ได้ให้การยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิดสัญญาบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมตามที่โจทก์ฟ้อง คดีมีประเด็นที่ต้องพิจารณาตามคำฟ้องโจทก์และคำให้การจำเลยว่า จำเลยต้องทำหนังสือและจดทะเบียนให้โจทก์และบริวารอาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทตลอดชีวิตตามบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะต้องดำเนินการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อไปเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงดังกล่าว ไม่ใช่ข้อเท็จจริงฟังยุติตามคำรับของฟ้องโจทก์และคำให้การจำเลย ที่ศาลจะวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์และบริวารมีสิทธิอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 572 ถนนสาธรใต้ ซอยสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาธร กรุงเทพมหานคร ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 30252 ตำบลทุ่งมหาเมฆ (สาธร) อำเภอยานนาวา (บางรัก) กรุงเทพมหานคร จนตลอดชีวิตของโจทก์ หากจำเลยไม่ทำหรือไม่ยอมไปทำการจดทะเบียนก็ขอให้ถือเอาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลนี้แสดงเจตนาแทนจำเลย
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย แล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อไปชอบหรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทำหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้โจทก์และบริวารอาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทจนตลอดชีวิต เนื่องจากจำเลยผิดสัญญาตามบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ชำระค่าขนย้ายให้โจทก์ตามที่ตกลงในบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมดังกล่าว จำเลยให้การว่า บันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นการขัดต่อสัญญาประนีประนอมยอมความไม่สามารถบังคับได้ตามกฎหมายและจำเลยทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเพราะถูกโจทก์ขู่บังคับให้กระทำจึงตกเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและจำเลยไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญาไม่ชำระเงินให้แก่โจทก์ตามบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมจะเห็นได้ว่า ตามคำให้การจำเลยไม่ได้ให้การยอมรับว่า เป็นฝ่ายผิดสัญญาบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมตามที่โจทก์ฟ้อง คดีมีประเด็นที่ต้องพิจารณาตามคำฟ้องโจทก์และคำให้การจำเลยว่า จำเลยต้องทำหนังสือและจดทะเบียนให้โจทก์และบริวารอาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทตลอดชีวิตตามบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะต้องดำเนินการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อไปเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงดังกล่าว ไม่ใช่ข้อเท็จจริงฟังยุติตามคำรับของฟ้องโจทก์และคำให้การจำเลย ที่ศาลจะวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยตามที่โจทก์อ้าง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อไปนั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ