คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นหัวหน้าควบคุมเหมืองฝาย มีหน้าที่แบ่งปันน้ำในเหมืองเฉลี่ยให้ตามนาต่าง ๆ ผู้ตายลักกั้นน้ำเข้านา จำเลยไปห้ามผู้ตายไม่เชื่อฟัง เกิดเถียงกัน แล้วจำเลยเดินหนี ผู้ตายตามไปทำร้ายจำเลย ๆ จึงทำตอบแทนจำเลยมีบาดแผล 3 แห่ง ถูกของมีคม แม้จะปรากฎว่าผู้ตายถูกทำร้ายเหมือนกันหลายแห่ง แต่ก็ปรากฎว่าผู้ตายได้ใช้มีดทำร้ายจำเลยหลายครั้ง จำเลยมีอำนาจกระทำป้องกันได้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

ความว่า จำเลยเป็นหัวหน้าควบคุมเหมืองฝาย มีหน้าที่แบ่งปันน้ำในเหมืองเฉลี่ยให้ตามนาต่าง ๆ ผู้ตายลักกั้นน้ำเข้านา จำเลยไปพบเข้าห้ามปราม ก็ไม่ฟัง จำเลยจึงรื้อเสียเอง แล้วเกิดทำร้ายกันขึ้น จำเลยมีบาดแผลหลายแห่งผู้ตายถึงแก่ความตาย โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ จำเลยให้การว่าได้กระทำโดยป้องกัน ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยได้กระทำโดยป้องกัน พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๕๐ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำโดยบรรดาลโทษะพิพากษาจำคุกจำเลย ๗ ปี ๖ เดือนตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๔๙,๕๕.
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำพะยานว่า ผู้ตายลักน้ำในเหมือง แล้วเกิดโต้เถียงกับจำเลย ผู้ตายได้ทำร้ายจำเลย ๆ จึงทำเพื่อป้องกัน บาดแผลจำเลยก็เป็นพะยานถึง ๓ แห่ง ปรากฎตามใบชันสูตรบาดแผลว่าถูกของมีคม แม้จะปราฎว่าผู้ตายมีบาดแปลถูกทำร้ายหลายแห่งก็ดี แต่ก็ปรากฎว่าผู้ตายได้ใช้มีดทำร้ายจำเลยหลายครั้ง จำเลยมีอำนาจกระทำการป้องกันได้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share