แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อมีสัญญาว่าผู้ซื้อมีหน้าที่ต้องตรวจทรัพย์ที่ซื้อก่อนผู้ขายส่งมอบหากผู้ซื้อยังไม่ทำตามที่ตนจะต้องทำ
ผู้ขายจึงยังไม่ส่งทรัพย์ตามกำหนด ดังนี้ จะว่าผู้ขายผิดนัดไม่ได้ และผู้ขายย่อมไม่ต้องรับผิดชอบ
เมื่อผู้ขายไม่ได้ผิดนัด ผู้ซื้อก็ไม่มีสิทธิเลิกสัญญาและไม่มีสิทธิเรียกเงินมัดจำคืน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาขายและส่งไม้กระดานจำนวนมากให้แก่โจทก์ จำเลยรับเงินล่วงหน้าจากโจทก์ไปแล้ว 50,300 บาท แต่มิได้ส่งมอบไม้ให้แก่โจทก์ตามสัญญาและไม่คืนเงินให้ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและฟ้องเรียกเงินคืน
จำเลยให้การว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามสัญญาและประเพณีในการซื้อขายไม้ทุกประการ โจทก์มีหน้าที่ตรวจไม้ ณ โรงเลื่อยของจำเลยก่อนจำเลยนำไม้ส่งโจทก์ แต่โจทก์ละเลยไม่ไปตรวจไม้ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีไม้พร้อมที่จะส่งให้โจทก์ ที่จำเลยยังไม่ได้ส่งไม้แก่โจทก์จึงเป็นความผิดของโจทก์เอง และจำเลยจึงริบเงินมัดจำ 50,300 บาทนั้นเสีย อนึ่ง จำเลยฟ้องแย้งว่า การผิดสัญญาของโจทก์ทำให้จำเลยต้องนำไม้ไปแปรรูปใหม่เพื่อขาย ขายแล้วยังขาดประโยชน์อีก 94,550 บาทหักเงินที่รับไว้จากโจทก์แล้ว จำเลยคงเรียกค่าเสียหายจากโจทก์เพียง 44,250 บาท
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ผิดสัญญาและจำเลยสืบได้สมฟ้องแย้งพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลย 44,250 บาท
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คงฟังว่าโจทก์ผิดสัญญา แต่พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาเรียกเงินที่จ่ายล่วงหน้าคืน แต่กลับปรากฏว่าฝ่ายโจทก์เองเป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่นนี้ โจทก์จะบอกเลิกสัญญาเรียกเงินคืนไม่ได้ตามแบบอย่างฎีกาที่ 389/99 ส่วนข้อฟ้องแย้งของจำเลยนั้นฟังได้ จึงพิพากษาแก้ ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายให้จำเลยตามฟ้องแย้ง