คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดี ได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว เพียงแต่มีข้อบกพร่อง ยังไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์เท่านั้น แต่โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวขออนุญาตขีดฆ่าแล้ว แม้จะเป็นเวลาภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน เพราะเหตุที่ศาลพบข้อบกพร่องดังกล่าวก็ตาม ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าได้ เมื่ออนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าอากรแสตมป์แล้ว เอกสารนั้นก็ใช้เป็นพยานหลักฐานได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ๓๐๐,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์จะมอบอำนาจให้นายปัญญาฟ้องคดีจริงหรือไม่ ไม่รับรอง จำเลยไม่เคยนำภาพยนตร์ตามฟ้องออกฉาย โจทก์ไม่เสียหาย
ระหว่างพิจารณา เมื่อสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนไปได้ ๒ ปาก ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี มิได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๑๘ แห่งประมวลรัษฎากร ใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่านายปัญญาเป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องคดีนี้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าอากรแสตมป์ในหนังสือมอบอำนาจ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป และพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๑๘ บัญญัติว่า “ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์ จะใช้ต้นฉบับ คู่ฉบับ คู่ฉีก หรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ จนกว่าจะได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจำนวนตามอัตราในบัญชีท้ายหมวดนี้และฉีดฆ่าแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการเสื่อมสิทธิที่จะเรียกเงินเพิ่มอากรตามมาตรา ๑๑๓ และมาตรา ๑๑๔” คดีนี้ ปรากฏว่าหนังสือมอบอำนาจที่นายสง่าโจทก์มอบให้นายปัญญาฟ้องคดีแทน คือ เอกสารหมาย จ.๑ ซึ่งโจทก์แนบมาท้ายฟ้อง มีข้อบกพร่องโดยไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์และก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดี โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตขีดฆ่าอากรแสตมป์แล้ว อ้างเหตุว่าพลั้งเผลอลืมขีดฆ่า แต่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโดยเห็นว่าโจทก์ยื่นคำร้องหลังจากที่ศาลได้งดสืบพยานเพราะหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์แล้ว ไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ขีดฆ่า เพราะฝ่ายจำเลยจะต้องคัดค้านอย่างแน่นอน ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าใบมอบอำนาจ เอกสารหมาย จ. ๑ ได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว เพียงแต่มีข้อบกพร่องยังไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์เท่านั้น แต่โจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวขออนุญาตขีดฆ่า แม้จะเป็นเวลาภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน เพราะเหตุที่ศาลพบข้อบกพร่องดังกล่าวก็ตาม ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าได้ เห็นว่าเมื่ออนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าอากรแสตมป์ในเอกสารหมาย จ.๑ ได้ ดังวินิจฉัยมาข้างต้นแล้ว เอกสารหมาย จ.๑ ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๑๘ เป็นผลทำให้ฟังได้ตามเอกสารนี้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายปัญญาฟ้องคดีนี้
พิพากษายืน

Share