คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฝากเงินกระแสรายวัน มีข้อสัญญาว่าถ้าออกเช็คไม่มีเงินเกิน 3 ครั้ง ธนาคารจะต้องปิดบัญชีตามระเบียบเป็นการแสดงเจตนาให้โจทก์ทราบล่วงหน้าแล้ว เมื่อธนาคารสั่งปิดบัญชีสัญญาเป็นอันเลิกกัน โจทก์นำเงินเข้าฝากภายหลังไม่ทำให้เกิดสัญญาขึ้นใหม่ธนาคารไม่ต้องจ่ายเงินตามเช็คที่โจทก์ออกภายหลัง

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องที่โจทก์เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดและผิดสัญญา โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน2518 โจทก์ได้เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารจำเลย สาขาคลองสานจำนวนเงิน 10,000 บาท วันที่ 25 มิถุนายน 2518 โจทก์ถอนเงินไป 9,500 บาทคงเหลือเงินในบัญชี 500 บาท โจทก์ไม่ได้นำเงินเข้าบัญชีอีกเลย แต่ได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินอีก 3 ฉบับ เป็นจำนวนเงิน 2,168 บาทฉบับหนึ่ง 2,700 บาทฉบับหนึ่ง และ 3,830 บาท อีกฉบับหนึ่ง ธนาคารจำเลยได้ปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2518 วันที่ 7 กรกฎาคม 2518และวันที่ 16 กรกฎาคม 2518 ตามลำดับ ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคม 2518 โจทก์ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 3,670 บาทอีก ธนาคารจำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินและสั่งปิดบัญชีโจทก์ในวันเดียวกันนั้น วันที่ 20 สิงหาคม 2518 โจทก์นำเงินเข้าบัญชีธนาคารจำเลย 12,000 บาท พนักงานธนาคารจำเลยรับเงินไว้วันเดียวกันนั้นโจทก์ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 12,000 บาทเพื่อชำระหนี้ให้นายกิติกร วุฒิการณ์ไกรธนาคารจำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างว่าบัญชีปิดแล้ว วันที่ 22 สิงหาคม2518 ธนาคารจำเลยนำเงินจำนวน 12,000 บาทมาคืนให้โจทก์ ต่อมานายกิติกรวุฒิการณ์ไกร จึงได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่โจทก์เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารจำเลย ย่อมก่อให้เกิดสัญญาระหว่างโจทก์กับธนาคารจำเลยเกี่ยวกับการฝากและถอนเงินจากบัญชีกระแสรายวันของโจทก์ การที่ธนาคารจำเลยสั่งปิดบัญชีของโจทก์ ย่อมมีผลเป็นการเลิกสัญญาซึ่งจะต้องแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386 แต่ธนาคารจำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้แล้วว่าได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่า โจทก์ออกเช็คสั่งจ่ายเงินต้องมีเงินในบัญชีพอจ่าย ถ้าธนาคารจำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คที่โจทก์สั่งจ่ายเกินกว่า 3 ครั้ง ธนาคารจำเลยจะต้องปิดบัญชีกระแสรายวันของโจทก์ตามระเบียบของธนาคารจำเลย โจทก์มิได้นำสืบปฏิเสธข้อต่อสู้ดังกล่าวและจำเลยก็นำสืบได้ความเช่นนั้น จึงฟังได้ตามนั้น ธนาคารจำเลยได้แสดงเจตนาให้โจทก์ทราบล่วงหน้าไว้แล้วว่า ถ้าธนาคารจำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คที่โจทก์สั่งจ่ายเกินกว่า 3 ครั้ง ธนาคารจำเลยจะต้องปิดบัญชีกระแสรายวันของโจทก์ เมื่อโจทก์ออกเช็คสั่งจ่ายเงินเกินกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี 4ฉบับ และธนาคารจำเลยได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้ง 4 ฉบับ ธนาคารจำเลยก็มีสิทธิสั่งปิดบัญชีกระแสรายวันของโจทก์ได้โดยไม่จำต้องแจ้งให้โจทก์ทราบอีกเมื่อธนาคารจำเลยสั่งปิดบัญชีแล้ว สัญญาระหว่างโจทก์กับธนาคารจำเลยก็เป็นอันเลิกกัน การที่โจทก์นำเงิน 12,000 บาท เข้าบัญชีภายหลังจากที่เลิกสัญญากันแล้ว แม้ธนาคารจำเลยจะรับเงินจำนวนนี้ไว้ ก็ไม่ทำให้สัญญากลับเกิดขึ้นใหม่อีกการที่ธนาคารจำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คจำนวน 12,000 บาท ที่โจทก์สั่งจ่ายภายหลังที่ธนาคารจำเลยรับเงินจำนวนนี้ไว้แล้ว จึงไม่เป็นการผิดสัญญาทั้งกรณีไม่เป็นการละเมิดดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากธนาคารจำเลย”

พิพากษายืน

Share