คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10348/2551

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าไม่มีพยานมาไต่สวนให้เห็นได้ว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมถือไม่ได้ว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาซึ่งจะต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 7 วัน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคห้า (เดิม) แต่มีกำหนดยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายใน 1 เดือน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (2)
เมื่อผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวภายใน 1 เดือน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์จึงไม่ชอบ และต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องไว้พิจารณา การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งเพราะเหตุผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกิน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง จึงไม่ชอบและไม่ทำให้คดีเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 236 วรรคหนึ่ง เพราะเป็นคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 3,252,113.56 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 14.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 1,963,353.68 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ชำระหนี้หรือชำระหนี้ไม่ครบถ้วนให้ยึดที่ดินตามโฉนดเลขที่ 72665 ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ หากได้เงินสุทธิไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนครบถ้วน ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความให้ 10,000 บาท ต่อมาจำเลยไม่ชำระหนี้ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินตามโฉนดเลขที่ 72665 ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ออกขายทอดตลาด
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ดังกล่าวและยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ในชั้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุว่าทนายผู้ร้องป่วย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาไต่สวน ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า คดีของผู้ร้องมีมูลที่จะฟ้องร้องและผู้ร้องเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม จึงไม่อนุญาตให้ผู้ร้องดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ หากผู้ร้องประสงค์จะดำเนินคดีในชั้นขอให้ปล่อยทรัพย์ต่อไป ให้นำค่าขึ้นศาลมาชำระให้ครบถ้วนภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าผู้ร้องทิ้งคำร้อง แต่ผู้ร้องมิได้นำเงินมาวางภายในกำหนดเวลา ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกิน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง จึงไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ผู้ร้องดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเพราะศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาไต่สวน เท่ากับศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยเนื้อหาแห่งคำร้องของผู้ร้องแล้วว่า ผู้ร้องไม่ใช่คนอนาถาจะใช้สิทธิดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ได้ ซึ่งผู้ร้องจะต้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้า (เดิม) แต่ผู้ร้องมิได้อุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด โดยผู้ร้องอุทธรณ์ในข้อที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดีและขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนพยานหลักฐานของผู้ร้องต่อไป คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ผู้ร้องดำเนินคดีอย่างคนอนาถาจึงยุติไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น คดีจึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาว่า สมควรอนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดีเพื่อทำการไต่สวนพยานหลักฐานของผู้ร้องต่อไปหรือไม่ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้อง การที่ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องเพราะเหตุที่ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกิน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้า (เดิม) ชอบหรือไม่ เห็นว่า การที่ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาไต่สวนให้เห็นได้ว่า ผู้ร้องเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม โดยผู้ร้องขอให้ยกคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของผู้ร้องต่อไป ถือไม่ได้ว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาซึ่งจะต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 7 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้า (เดิม) ผู้ร้องจึงชอบที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นได้ภายในกำหนดเวลา 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (2) คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2550 และผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2550 จึงยังอยู่ภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งกรณีที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีจึงไม่ชอบ และเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะต้องสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีของผู้ร้องไว้พิจารณาและดำเนินการต่อไป การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งเพราะเหตุที่ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกิน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง จึงไม่ชอบและย่อมไม่ทำให้คดีเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง เนื่องจากเป็นคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและมิให้เสียเวลาแก่คู่ความ อีกทั้งคดีพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้ จึงเห็นสมควรไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งอีก โดยศาลฎีกาจะได้ทำการพิจารณาว่าการที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาไต่สวนให้เห็นได้ว่า ผู้ร้องเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมชอบหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงในสำนวนปรากฏว่า เมื่อศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ทนายผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีรวม 4 ครั้ง กล่าวคือ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2549 ขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าผู้ร้องป่วยมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ในวันที่ 30 ตุลาคม 2549 ขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่า ทนายผู้ร้องป่วยเป็นไข้หวัด ในวันที่ 10 เมษายน 2550 ขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่า ทนายผู้ร้องป่วยมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงเนื่องจากอาหารเป็นพิษ และในวันที่ 6 มิถุนายน 2550 ขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าทนายผู้ร้องป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ จะเห็นได้ว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีทุกครั้งโดยอ้างเหตุว่าป่วยโดยไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดง ซึ่งศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้เลื่อนคดีมาโดยตลอด พฤติการณ์ของทนายผู้ร้องจึงส่อไปในทางประวิงคดีให้ล่าช้า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาไต่สวนให้เห็นได้ว่า ผู้ร้องเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม และยกคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายผู้ร้องจึงชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ และให้บังคับไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอเลื่อนคดีและยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของผู้ร้องตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 6 มิถุนายน 2550 ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share