แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้การต่อสู้เป็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้หลายประเด็นศาลชั้นต้นให้จำเลยระบุให้ชัดเจนในประเด็นข้อหนึ่งว่า ‘สิ่งของตามบัญชีที่โจทก์ฟ้องบางส่วนนั้นมีอะไรบ้าง’ จำเลยแถลงว่าไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้ ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุที่จะไม่รับคำให้การจำเลย และถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การได้ เพราะนอกจากประเด็นที่ศาลตำหนิแล้วยังมีประเด็นอื่นที่จะพิจารณาอยู่อีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโรงเรียนช่างกลกรมรถไฟต่อมาจำเลยบอกเลิกสัญญา จำเลยได้สำรวจสิ่งของที่โจทก์ใช้ในการก่อสร้างตามบัญชีหมายเลข 2 แล้วจำเลยให้คนอื่นรับช่วงทำการก่อสร้างต่อไป ในเรื่องผิดสัญญาจำเลยได้ฟ้องโจทก์เรียกค่าเสียหาย ศาลได้พิพากษาว่า สัมภาระเครื่องใช้เครื่องมือตามบัญชีหมายเลข 2 นั้นตามสัญญารับเหมายังเป็นของโจทก์อยู่โจทก์จึงฟ้องขอเรียกเงินค่าสิ่งของตามบัญชีหมายเลข 2 และที่พักคนใช้ที่โจทก์สร้างรวมราคา 67,927 บาท 71 สตางค์ และขอหักหนี้กับจำเลยคงเรียกเพียง 65,298 บาท 71 สตางค์
จำเลยให้การต่อสู้หลายข้อหลายประเด็น รวมทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย สรุปความได้ว่า
1. จำเลยไม่ได้ยึดทรัพย์ตามบัญชีที่โจทก์ฟ้องเพราะสิ่งของเครื่องใช้ส่วนหนึ่ง จำเลยเป็นผู้ซื้อมา บางส่วนโจทก์จัดหามาและจำเลยได้ชำระราคาไปแล้ว บางส่วนที่เหลือจากการก่อสร้าง ก็ได้ขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลไปแล้ว
2. เนื่องจากโจทก์ผิดสัญญา จำเลยจึงมีสิทธิยึดหน่วงทรัพย์ของโจทก์ไว้เพื่อใช้หนี้ได้
3. จำเลยตัดฟ้องว่า จำเลยได้ครอบครองทรัพย์ที่ยึดหน่วงไว้เกิน 5 ปีแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกคืน
ศาลแพ่งสั่งว่า คำให้การจำเลยไม่ชัดว่าสิ่งของตามที่โจทก์ฟ้องบางส่วนนั้นมีอะไรบ้าง ให้ระบุมาให้ชัดเจนภายใน 5 วัน
จำเลยยื่นคำแถลงว่า จำเลยไม่อาจ และไม่อยู่ในฐานะที่จะระบุให้ชัดเจนตามคำสั่งศาลได้ เพราะปรากฏว่าสิ่งของ เครื่องใช้ต่าง ๆ ได้แปรรูปสภาพไปจากรูปเดิม เนื่องจากเลื่อยตัดก็นำไปใช้ในการก่อสร้าง จึงเป็นเศษไม้เหลืออยู่เป็นจำนวนมากขึ้น
ศาลแพ่งสั่งไม่รับคำให้การของจำเลย แล้วสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำให้การของจำเลยมีข้อต่อสู้หลายข้อรวมทั้งข้อกฎหมายด้วย ซึ่งศาลชั้นต้นไม่ได้ตำหนิว่าไม่ควรรับแต่กลับไม่รับคำให้การเสียหมดทุกข้อดังนี้ จึงพิพากษายกคำสั่งศาลแพ่ง ให้ศาลแพ่งรับคำให้การจำเลยไว้พิจารณา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ยื่นคำให้การต่อสู้เป็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้หลายประเด็น ศาลแพ่งสั่งให้จำเลยยื่นคำให้การระบุให้ชัดเจนในประเด็นหนึ่งว่าสิ่งของตามบัญชีที่โจทก์ฟ้องบางส่วนนั้นมีอะไรบ้าง และจำเลยแถลงว่าไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้นั้นยังไม่เป็นเหตุที่ที่จะไม่รับคำให้การจำเลยและถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ เพราะนอกจากประเด็นที่ศาลแพ่งตำหนิแล้ว ยังมีประเด็นอื่นที่ศาลจะต้องพิจารณาอยู่อีก แม้ในประเด็นที่ศาลตำหนินั้น จำเลยก็ได้แถลงแล้วว่าไม่สามารถจะทำได้ ซึ่งเป็นข้อที่ศาลควรจะวินิจฉัยในชั้นชี้สองสถานหรือในชั้นพิจารณาอยู่เหมือนกัน จึงพิพากษายืน