แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีสาเหตุกับผู้เสียหายมาก่อน การที่จำเลยใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 4 ถึง 5 นิ้ว กว้างประมาณ 2.5 เซนติเมตรแทงผู้เสียหาย 4 ครั้ง บริเวณราวนมด้านซ้ายและบริเวณชายโครงขวาจนทะลุไปถึงกะบังลมและตับซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญแสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรงและเจตนาเลือกแทงอวัยวะสำคัญพฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 83, 91, 288, 371
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 ให้จำคุก 5 ปี มาตรา 371 ให้ปรับ 100 บาท เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุก 5 ปีและปรับ 100 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 ให้จำคุก 10 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายในความผิดฐานพยายามฆ่าว่า จำเลยมีสาเหตุกับผู้เสียหายมาก่อน การที่จำเลยใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 4 ถึง 5 นิ้ว กว้างประมาณ 2.5 เซนติเมตรแทงผู้เสียหาย 4 ครั้ง บริเวณราวนมด้านซ้ายและบริเวณชายโครงขวาจนทะลุไปถึงกะบังลมและตับ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญแสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรงและเจตนาเลือกแทงอวัยวะสำคัญพฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเพราะแพทย์ทำการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษายืน