แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนอง ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งให้โจทก์วางเงินค่าใช้จ่ายในการประกาศขายทอดตลาด แต่โจทก์ไม่ได้วางเงินภายในกำหนดเวลาดังกล่าวดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 ทวิชอบที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขอให้ศาลถอนการบังคับคดีนั้นเสีย และการที่ศาลชั้นต้นสั่งถอนการบังคับคดีโดยไม่ได้ไต่สวนคำร้องเพราะข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งจึงชอบแล้ว
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ ครบกำหนดจำเลยไม่ชำระโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 30425 พร้อมสิ่งปลูกสร้างเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2541 โดยโจทก์นำส่งต้นฉบับโฉนดที่ดินและหนังสือสัญญาจำนองแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งให้โจทก์วางเงินค่าใช้จ่ายในการประกาศขายทอดตลาดจำนวน 3,000 บาท ภายในวันที่ 9 มีนาคม 2542โจทก์ไม่ได้วางเงินภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนการยึดทรัพย์เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2542 ครั้นวันที่ 13กรกฎาคม 2542 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งที่ให้ถอนการบังคับคดี ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า ปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้เพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดนั้น ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้ครบถ้วนชัดแจ้งแล้วว่าข้อเท็จจริงปรากฏตามหนังสือของเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดีลงวันที่ 23 มีนาคม 2542 เอกสารอันดับที่ 25 ในสำนวนว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือถึงนายสุวิชช์ ไชยกูล ผู้แทนโจทก์ถึง 2 ครั้ง ให้วางเงินค่าใช้จ่ายในการประกาศขายทอดตลาดในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2542และวันที่ 9 มีนาคม 2542 โดยส่งทางไปรษณีย์ตอบรับไปยังที่อยู่เลขที่ 205/16 ถนนประชาสงเคราะห์ ซอยเพิ่มสิน แขวงดินแดงเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร อันเป็นภูมิลำเนาที่ผู้แทนโจทก์ให้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีในวันที่นำยึดทรัพย์ ตราบใดที่ยังมิได้เปลี่ยนแปลงภูมิลำเนาก็ต้องถือว่าการส่งหนังสือให้วางเงินค่าใช้จ่ายในการประกาศขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีถึงผู้แทนโจทก์ชอบแล้ว ประกอบกับในวันที่ 29 กันยายน 2541 เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำบันทึกรายงานเจ้าหน้าที่ไว้ซึ่งตอนท้ายระบุข้อความว่าผู้แทนโจทก์แถลงขอผัดส่งภูมิลำเนาจำเลย รายชื่อที่ดินข้างเคียงภาพถ่ายสิ่งปลูกสร้างและวางเงินค่าใช้จ่ายในการขายทอดตลาดเพิ่ม2,000 บาท ภายในกำหนด 15 วันแล้วนายสุวิชช์ ไชยกูล ผู้แทนโจทก์ลงลายมือชื่อไว้ เช่นนี้แสดงว่าผู้แทนโจทก์ทราบดีว่าต้องวางเงินค่าใช้จ่ายในการประกาศขายทอดตลาดภายในกำหนดแล้ว การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งเป็นหนังสือย้ำเตือนให้วางเงินค่าใช้จ่ายในการประกาศขายทอดตลาด แต่ผู้แทนโจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดจนเจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถอนการบังคับคดีจึงชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 295 ทวิ การที่ศาลชั้นต้นสั่งถอนการบังคับคดีโดยไม่ได้ไต่สวนคำร้องเพราะข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งจึงชอบแล้ว ดังนั้น ปัญหาตามฎีกาของโจทก์จึงเป็นปัญหาอันไม่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง”
พิพากษายกฎีกาโจทก์