คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6544/2537

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์มีคำขอเพียงให้ศาลพิพากษาเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ครึ่งหนึ่งให้แก่โจทก์มิได้ขอให้บังคับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้แก่โจทก์ที่ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้แก่โจทก์ จึงเป็นการเกินคำขอ โจทก์และจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกัน ในส่วนที่เป็นของโจทก์หากโจทก์ไม่ยินยอมจำเลยที่ 1 ก็ไม่มีสิทธิจะนำไปจำหน่ายจ่ายโอนให้แก่บุคคลใดได้ เมื่อจำเลยที่ 1 นำที่พิพาทส่วนที่เป็นของโจทก์ไปจำหน่ายแม้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 จะซื้อมาโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริตก็หาได้สิทธิอย่างใดไม่เพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1โจทก์กับจำเลยที่ 1 มีสิทธิครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 3624เนื้อที่ 37 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา ซึ่งทำมาหาได้ร่วมกันในระหว่างเป็นสามีภรรยา แต่ใน น.ส.3 ก. ใส่ชื่อจำเลยที่ 1 ไว้ เมื่อวันที่18 กันยายน 2532 จำเลยที่ 1 ขายที่ดินดังกล่าวให้จำเลยที่ 2ที่ 3 และที่ 4 ในราคา 150,000 บาท โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันขายที่ดินส่วนของโจทก์โดยเจตนาทุจริตครั้นปลายเดือนพฤษภาคม 2533 จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ใช้รถเข้าไปไถที่ดินทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย ขอให้พิพากษาเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวครึ่งหนึ่งให้แก่โจทก์ และให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 จัดการโอนเปลี่ยนแปลงและแบ่งแยกทางทะเบียนที่ดินให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่งภายใน 7 วัน นับแต่วันทราบคำบังคับ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแสดงเจตนาแทนจำเลย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ แต่โจทก์มิได้ยื่นคำขอต่อศาลชั้นต้นให้มีคำสั่งว่า จำเลยที่ 1 ขาดนัด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ออกจากสารบบความ
จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินตามฟ้อง เพราะที่ดินดังกล่าวเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันซื้อที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 โดยสุจริต ทั้งจดทะเบียนโดยสุจริตจึงชอบด้วยกฎหมาย และจำเลยที่ 1 ได้ส่งมอบการครอบครองที่ดินให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2532นับถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.3 ก.เลขที่ 3624 ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ครึ่งหนึ่งให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ส่งมอบการครอบครองและจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์กึ่งหนึ่งของที่ดินดังกล่าว หากจำเลยที่ 2ที่ 3 และที่ 4 ไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่บังคับให้จำเลยที่ 2ที่ 3 และที่ 4 ไปจดทะเบียนโอนที่ดินส่วนของโจทก์ให้โจทก์นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ส่วนฎีกาของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ข้อ 2(ก)และ(ข) นั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยต่อไปจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ฎีกาข้อ 2(ก) ว่า การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้แก่โจทก์เป็นการพิพากษาเกินคำขอ ปัญหาข้อนี้เห็นว่าตามฟ้องโจทก์มีคำขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ครึ่งหนึ่งให้แก่โจทก์มิได้ขอให้บังคับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้แก่โจทก์แต่อย่างใดที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้แก่โจทก์จึงเป็นการเกินคำขอ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ข้อนี้ฟังขึ้น
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ฎีกาข้อ 2(ข) ว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4ซื้อที่พิพาทมาโดยสุจริตและจดทะเบียนโดยสุจริตจึงมีสิทธิดีกว่าโจทก์นั้น ปัญหาข้อนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของร่วมกันในที่พิพาท จำเลยที่ 1นำที่พิพาทไปขายให้แก่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 โดยโจทก์มิได้ยินยอมจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริต ปัญหาที่ว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ได้สิทธิในที่พิพาทหรือไม่ เห็นว่า โจทก์และจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกันในส่วนที่เป็นของโจทก์หากโจทก์ไม่ยินยอมจำเลยที่ 1 ก็ไม่มีสิทธิจะนำไปจำหน่ายจ่ายโอนให้แก่บุคคลใดได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิที่จะนำที่พิพาทส่วนที่เป็นของโจทก์ไปจำหน่ายเช่นนี้แม้จำเลยที่ 2ถึงที่ 4 จะซื้อมาโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริตก็หาได้สิทธิอย่างใดไม่ เพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ฎีกาของจำเลยที่ 2ถึงที่ 4 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่บังคับให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ส่งมอบการครอบครองที่ดินให้แก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share