คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6530/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ข้อตกลงตามสัญญาเช่าซื้อที่ว่า หากมีข้อพิพาทเกิดขึ้นเกี่ยวกับสัญญานี้ให้เสนอคดีต่อศาลแพ่ง จะไม่มีผลผูกพันคู่สัญญาอีกต่อไป เพราะได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12)พ.ศ.2534 ซึ่งเป็นผลให้มาตรา 7 แห่ง ป.วิ.พ.เดิม ถูกยกเลิกไปตั้งแต่วันที่ 28สิงหาคม 2534 แต่การที่ศาลแพ่งได้รับฟ้องของโจทก์ออกหมายเรียกส่งสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้งสอง และได้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อมาจนกระทั่งเสร็จการพิจารณา ย่อมถือได้ว่าศาลแพ่งได้ใช้ดุลพินิจยอมรับคดีนี้ไว้พิจารณาพิพากษาตามที่พระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14 (5) ให้อำนาจไว้แล้ว
การที่ศาลชั้นต้นจะวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นตาม ป.วิ.พ.มาตรา 24ไปทีเดียวหรือจะรอวินิจฉัยในคำพิพากษานั้น เป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้น ทั้งข้อกฎหมายที่จำเลยขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นนั้น แม้จะวินิจฉัยชี้ขาดก็ไม่เป็นคุณแก่จำเลย ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่ายังไม่เห็นสมควรชี้ขาดในชั้นนี้ ให้รอไว้สั่งเมื่อมีคำพิพากษาจึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาความแล้ว

Share