คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6528/2560

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ส่วนความผิดฐานมีพืชกระท่อมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษตามมาตรา 76 วรรคสอง และยาเสพติดทั้งสองชนิดซึ่งเป็นวัตถุแห่งการกระทำความผิดดังกล่าว กฎหมายถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เช่นเดียวกัน โดยบัญญัติบทความผิดกับบทลงโทษในบทมาตราเดียวกัน เมื่อจำเลยที่ 4 มีไว้ในครอบครองในขณะเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ 4 จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้โจทก์บรรยายฟ้องแยกเป็นความผิดแต่ละกรรมโดยชัดแจ้ง และขอให้ลงโทษทุกกรรม ก็ไม่ทำให้การกระทำความผิดของจำเลยที่ 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 26, 57, 66, 76, 91, 92, 100/1, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58, 83, 91, 93 (ที่ถูกคือ มาตรา 92) เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามกฎหมายและบวกโทษจำคุกของจำเลยที่ 4 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2534/2556 ของศาลชั้นต้น เข้ากับโทษจำคุกของจำเลยที่ 4 ในคดีนี้
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีนและข้อหาเสพกัญชา ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์อ้างเป็นเหตุขอให้เพิ่มโทษ
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การรับสภาพข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ 4 ให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์อ้างเป็นเหตุขอให้บวกโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57, 91, 92 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน และฐานเสพกัญชา จำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 7 เดือน เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 9 เดือน 10 วัน จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 เดือน 20 วัน จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57, 91 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุกคนละ 6 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก จำเลยที่ 2 และที่ 3 คนละ 3 เดือน และปรับคนละ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ให้โอกาสจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ปรับปรุงตนเป็นพลเมืองดีต่อไป จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้คนละ 2 ปี คุมความประพฤติของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้คนละ 1 ปี โดยให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติคนละ 4 ครั้ง และให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 และพนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร มีกำหนดคนละ 20 ชั่วโมง กับห้ามจำเลยที่ 2 และที่ 3 เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษทุกชนิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 (ที่ถูก มาตรา 56) หากจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 จำเลยที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม (2), 26 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคสอง, 76 วรรคหนึ่ง วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 (ที่ถูก มาตรา 91) ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยที่ 4 และนายบุญชิตร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและที่ได้จำหน่ายไปดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ 4 จึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 8 ปี และปรับ 400,000 บาท ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน และฐานมีพืชกระท่อมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 8 ปี 8 เดือน และปรับ 400,000 บาท บวกโทษจำคุก 10 เดือน ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2534/2556 ของศาลชั้นต้น เข้ากับโทษของจำเลยที่ 4 ในคดีนี้ เป็นจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 8 ปี 18 เดือน และปรับ 400,000 บาท หากจำเลยที่ 4 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 กรณีต้องกักขังจำเลยที่ 4 แทนค่าปรับ ให้กักขังได้ไม่เกิน 2 ปี ฟ้องโจทก์ สำหรับจำเลยทั้งสี่ในข้อหาอื่นให้ยก (ที่ถูก ฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในข้อหาอื่นให้ยก)
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับจำเลยที่ 4 ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 ปี และปรับ 400,000 บาท ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 เดือน เป็นจำคุก 6 ปี 2 เดือน บวกโทษจำคุกอีก 10 เดือนแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 6 ปี 12 เดือน และปรับ 400,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยที่ 4 ในความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานมีพืชกระท่อมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันหรือไม่ เห็นว่า ความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ส่วนความผิดฐานมีพืชกระท่อมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษตามมาตรา 76 วรรคสอง และยาเสพติดให้โทษทั้งสองชนิดซึ่งเป็นวัตถุแห่งการกระทำความผิดดังกล่าว กฎหมายถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เช่นเดียวกัน โดยบัญญัติบทความผิดกับบทลงโทษในบทมาตราเดียวกัน เมื่อจำเลยที่ 4 มีไว้ในครอบครองในขณะเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ 4 จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้โจทก์บรรยายฟ้องแยกเป็นความผิดแต่ละกรรมโดยชัดแจ้ง และขอให้ลงโทษทุกกรรม ก็ไม่ทำให้การกระทำความผิดของจำเลยที่ 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันดังที่โจทก์ฎีกาได้ ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยในความผิดฐานดังกล่าวเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share