คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6527/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย หากจำเลยประสงค์จะให้มีการรับอุทธรณ์ไว้พิจารณา ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์โดยอ้างเหตุว่าทุนทรัพย์พิพาทมีราคาเกินกว่าห้าหมื่นบาท แต่จำเลยก็มิได้กระทำ จึงมีผลให้คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์นั้นเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 147 วรรคสอง และมาตรา 234 ดังนี้ ไม่ว่าศาลฎีกาจะวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบในเรื่องที่ศาลชั้นต้นกำหนดจำนวนทุนทรัพย์ของโจทก์โดยจำเลยไม่มีโอกาสคัดค้านอย่างไร ก็ไม่อาจมีผลกระทบถึงคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยซึ่งถึงที่สุดแล้วได้ ปัญหาตามฎีกาของจำเลยจึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัย ศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท ในวันสืบพยานจำเลยและจำเลยร่วมซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน โจทก์ยื่นคำแถลงว่า คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์ขอตีราคาที่ดินพิพาทเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท และขอเสียค่าขึ้นศาลเพิ่มอีก ๑,๐๕๐ บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับลงบัญชีไว้ ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและจำเลยร่วมออกจากที่ดินพิพาทและให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยและจำเลยร่วมอุทธรณ์โดยเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ๒๐๐ บาท ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและจำเลยร่วม ต่อมาจำเลยและจำเลยร่วมยื่นคำร้องลงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ขอแก้ไขอุทธรณ์เป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงจึงให้เพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์ และสั่งใหม่เป็นไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยและจำเลยร่วม
จำเลยและจำเลยร่วมยื่นคำร้องลงวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๔๓ ว่าศาลชั้นต้นกำหนดจำนวนทุนทรัพย์ตามคำแถลงของโจทก์ โดยไม่ให้โอกาสแก่จำเลยและจำเลยร่วมได้คัดค้านก่อนเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ จำเลยและจำเลยร่วมเพิ่งทราบการพิจารณาที่ผิดระเบียบ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ภายหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบดังกล่าว และให้สอบถามคู่ความทุกฝ่ายเพื่อกำหนดจำนวนทุนทรัพย์แล้วมีคำสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยและจำเลยร่วมเสียใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีตามคำร้องยังไม่พอให้ถือว่าเป็นเหตุเพิกถอนกระบวนพิจารณา ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยและจำเลยร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยและจำเลยร่วมฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยและจำเลยร่วมแล้ว หากจำเลยและจำเลยร่วมประสงค์จะให้มีการรับอุทธรณ์ไว้พิจารณา จำเลยและจำเลยร่วมก็ชอบที่จะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์โดยอ้างเหตุว่าทุนทรัพย์พิพาทควรมีราคาเกินกว่าห้าหมื่นบาท เพื่อให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดอันจะมีผลให้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณา แต่จำเลยและจำเลยร่วมก็มิได้กระทำ จึงมีผลให้คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์นั้นเป็นที่สุด ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง และมาตรา ๒๓๔ ดังนี้ ไม่ว่าศาลฎีกาจะวินิจฉัยฎีกาของจำเลยและจำเลยร่วมอย่างไร ก็ไม่อาจมีผลกระทบถึงคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยและจำเลยร่วมซึ่งถึงที่สุดแล้วได้ ปัญหาตามฎีกาของจำเลยและจำเลยร่วมจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัย
ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share